วันนี้ (5 เมษายน 2566) เวลา 10.00 น. ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน วันผู้สูงอายุแห่งชาติ และวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “สร้างสุข ทุกพื้นที่ปลอดภัย เพื่อผู้สูงวัย และครอบครัว” พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และกล่าวแสดงความยินดีกับผู้สูงอายุและครอบครัวรวมทั้งหน่วยงานที่ได้รับรางวัลในปีนี้ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ เสริมพลังใจและความภาคภูมิใจในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์และเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม อาทิ นายประยงค์ รณรงค์ ผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2566 โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวรายงาน และนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย นางจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ คณะผู้บริหาร พม. หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งสถาบันการศึกษา และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานจำนวนทั้งสิ้น 1,500 คน
นายจุติ รมว.พม. กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้สูงอายุกว่า 12 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 19.22 ของประชากรทั้งประเทศ และมีครอบครัวประมาณ 28.18 ล้านครัวเรือน ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ระบุว่าในปี 2571 สังคมไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Complete Aged Society) และปี 2579 สังคมไทยมีแนวโน้มที่จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 เนื่องจากอัตราการเกิดน้อย ในขณะที่มีผู้สูงอายุเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี และจากสถิติของผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นนั้น พบแนวโน้มว่า ผู้สูงอายุในอนาคตจะมีระดับการศึกษาสูง มีแนวโน้มครองโสดถาวร และไม่มีบุตรเพิ่มขึ้น
สำหรับการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2566 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สร้างสุข ทุกพื้นที่ปลอดภัย เพื่อผู้สูงวัยและครอบครัว” โดยมุ่งเน้นให้สังคมร่วมสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงวัยและครอบครัว ทั้งที่ “บ้าน” ที่เน้นการสร้างสัมพันธภาพเชิงบวก ครอบครัวอบอุ่น ไร้ความรุนแรง “สถานศึกษา” ที่เน้นการส่งเสริมการเป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย “สถานที่ทำงาน” ที่เน้นการส่งเสริมการดูแลสวัสดิการและสร้างสุขภาวะที่ดีให้สมาชิกในครอบครัวที่จำเป็นต้องทำงานนอกบ้าน และ “พื้นที่สาธารณะ” ที่เน้นการทำให้ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง สมาชิกในครอบครัวก็จะมีความอยู่ดีมีสุข โดยวันนี้ถือเป็นการเปิดตัวระบบ ESS Help Me “ปักหมุด หยุดเหตุ” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นช่องทาง LINE Official Account ในการรับแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ที่สามารถแชร์พิกัดจุดเกิดเหตุในระบบเพื่อให้ทีมสหวิชาชีพไปยังจุดเกิดเหตุให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ทุกครอบครัวเป็นการตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่สามารถป้องกันและแก้ปัญหาความเดือดร้อนได้
กิจกรรมที่น่าสนใจตลอดทั้งวันประกอบด้วย ช่วงเช้าพิธีเปิดและมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้สูงวัยและครอบครัว ที่ทำคุณประโยชน์และเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม รวมถึงหน่วยงานและองค์กรที่สนับสนุนงานด้านผู้สูงอายุและครอบครัว เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาสังคม อาทิ นายประยงค์ รณรงค์ ผู้สูงอายุแห่งชาติประจำปี 2566 พระพรหมวชิรโสภณ (ศรีจันทร์ ปุญญรโต) จังหวัดร้อยเอ็ด ครอบครัวร่มเย็น ผู้ชนะการประกวดคลิปวิดีโอ “ต่างยุค ต่างวัย หัวใจผูกกัน” และเปิดตัวระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม (Emergency Social Services: ESS) ผ่าน Line OA “ESS Help Me ปักหมุด หยุดเหตุ” เพื่อเป็นของขวัญประชาชนในวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว เวที Ted Talk “สร้างสุข ทุกพื้นที่ปลอดภัย เพื่อผู้สูงวัยและครอบครัว” โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ชุมเขต แสวงเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ศูนย์รังสิตด้านกายภาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณหมอสมชัย และคุณณัฐรดา สุขสุธรรมวงศ์ คู่รักดาว TikTok สายสตรองวัย 60+ และคุณย่ากระต่าย คนดัง TikTok ช่อง “รุงรัง Diary” นอกจากนี้ ยังมีการแสดง “มโนรา ศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ โดย นายธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินแห่งชาติประจำปี 2564 รับชมวีดิทัศน์ “สร้างสุข ทุกพื้นที่ปลอดภัย เพื่อผู้สูงวัย และครอบครัว” และช่วงบ่าย มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคคล หน่วยงาน และองค์กรที่สนับสนุนการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุและครอบครัว โดยนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต่อด้วยเวทีเสวนา “นโยบายสาธารณะเพื่อการขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ” โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และชมบูธนิทรรศการความร่วมมือของภาคีเครือข่ายต่างๆ กว่า 70 บูธ อาทิ บูธนิทรรศการทางวิชาการและนวัตกรรม บูธการบริการ เช่น Family Line บริการให้คำปรึกษาครอบครัวโดยผู้เชี่ยวชาญ บริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย โดยสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นต้น รวมทั้งบูธสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญา 4 ภาค