งานประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการเมืองอัจฉริยะ 2024 ครั้งที่ 11 (Smart City Summit & Expo – SCSE 2024) และงานประชุมสุดยอดผู้นำเมือง Net Zero City Expo ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่ไทเประหว่างวันที่ 19-22 มีนาคม และเมืองเกาสงระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2024 โดยเป็นการผนึกความร่วมมือของสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งไทเป สภาการพัฒนาแห่งชาติ และรัฐบาลเมืองเกาสง โดยมีผู้แสดงสินค้า 450 ราย และบูธ 1,650 บูธ ทั้งในและต่างประเทศรวม 2,200 ราย โดยมีภาครัฐ บริษัท องค์กรธุรกิจทั้งในประเทศไต้หวันและต่างประเทศเข้าร่วมงานจัดประชุมประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการเมืองอัจฉริยะ 2024 ภายใต้ธีม AI งานประจำปีนี้เน้นการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะในด้านการขนส่งและโซลูชั่นสุทธิเป็นศูนย์
นายพอล เปง (Paul Peng) ประธานสมาคมคอมพิวเตอร์ไทเป ร่วมเปิดงาน Smart City Summit & Expo ครั้งที่ 11 เมืองไทเป ไต้หวัน โดยกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับภูมิภาคและไต้หวันในฐานะศูนย์กลางและผู้เริ่มจัดงานในเอเชีย ซึ่ง นิทรรศการฯ นี้ไดเจัดแสดงด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมและความก้าวหน้าด้านการขนส่ง ด้านเฮลท์แคร์ การก่อสร้าง และอื่นๆ คาดในปีนี้เติบโตราว 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว พร้อมคาดหวังว่าการแบ่งปัน ความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการสร้างเมืองอัจฉริยะสีเขียว เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์และเป้าหมายความเป็นศูนย์กลางเมืองอัจฉริยะที่ชาญฉลาดและสุทธิเป็นศูนย์
นายเฉิง เหวิน-จั่น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน เทคโนโลยีอัจฉริยะและดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอย่างมั่นคงสู่การบูรณาการอัจฉริยะ โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงสุทธิเป็นศูนย์มากกว่า 60% และพวกเราทุกภาคส่วนจะสามารถช่วยบรรลุการเปลี่ยนแปลงที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และสร้างรากฐานที่สำคัญในการก้าวไปสู่การบูรณาการอย่างชาญฉลาด
นอกจากนี้ เลขาธิการสำนักงานประธานาธิบดี นายหลิน เชียลุง ยังกล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทผู้นำของไต้หวันในด้านไอซีทีและเซมิคอนดักเตอร์เทคโนโลยี AI ไต้หวันมีส่วนร่วมและเป็นผู้นำในการจัดการสร้างเมืองอัจฉริยะและการเชื่อมโยงเมืองสีเขียว “ผมเชื่อว่าเมืองอัจฉริยะจะต้องเป็นเมืองสีเขียวและการที่จะกลายเป็นเมืองสีเขียวนั้นจะต้องเป็นเมืองอัจฉริยะ”
นายกุง หมิง-ฮิน (Kung Ming-hsin) รัฐมนตรีสภาการพัฒนาแห่งชาติ (National Development Council Minister)ได้กล่าว ไต้หวันเรามีชื่อเสียงจากการจัดงาน Computex ต่อเนื่องมายาวนาน ซึ่งเป็นงานแสดงคอมพิวเตอร์ประจำปีที่จัดขึ้นที่ไทเป เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์เป็นจุดแข็งของบริษัทในไต้หวัน นอกจากนี้การสร้างและพัฒนาเมืองอัจฉริยะก้าวกระโดดจากการผลิตฮาร์ดแวร์ ซึ่งเป็นการพัฒนาเทคโนฯ โซลูชั่นเพื่อนำมารับมือและแก้ปัญหาการบริหารจัดการเมืองในอนาคตให้มีความอัจฉริยะ โดยมีเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2050 พร้อมเน้นย้ำว่า การจัดงานแสดงนิทรรศการฯ ครั้งนี้ เป็นการรับมือกับความท้าทายของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เทคโนโลยี โซลูชั่นที่มีแนวคิดก้าวหน้า และการจัดแสดงความมุ่งมั่นของไต้หวันในการบรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่จะลดการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ของรัฐบาลไต้หวันในปี ค.ศ. 2050 โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับโลกร่วมกัน
ภานในงานครั้งนี้ยังมีงานประชุมสุดยอดผู้นำเมือง Net Zero City Expo ครั้งที่ 2 (เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์) ภายใต้ปณิธานโลก COP เพื่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมเมืองและการแก้ไขปัญหาด้วยโซลูชั่นดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Smart Solutions) ซึ่งจะมีการร่วมหารือในกลุ่มผู้บริหาร ภาครัฐ ภาคธุรกิจ องค์กรต่างๆ จากนานาชาติ สู่การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
ผู้บริหารร่วมแถลงข่าวในภาพ (จากซ้ายไปขวา) มีดังนี้
นาย Vitezslav Schrek ประธาน ภูมิภาค Vysočina สาธารณรัฐเช็ก
นายชาร์ลส์ ลิน รองนายกเทศมนตรีเมืองเกาสง ไต้หวัน
นายเจสัน เฉิน ประธาน Taiwan Smart City Solutions Alliance
นายมาร์ค อิริค (Marc Elrich) ผู้บริหารเขตมอนต์โกเมอรี่จากสหรัฐอเมริกา (Montgomery County, MD,)
นายเดวิด กอลเดง (David Golding) หัวหน้าฝ่ายความร่วมมือด้านนวัตกรรมระดับโลก Innovate UK
นายเจสัน เฉิน ประธานของ Taiwan Smart City Solutions Alliance และประธานของ Acer Group กล่าวว่า ในฐานะผู้จัดงาน SCSE 2024 จัดขึ้นเป็นปีที่ 11 ซึ่งมีการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่มาจัดแสดงทุกปี สำหรับปีนี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจและมุ่งเน้นไปที่ ESG ด้วย เนื่องจาก SCSE 2024 ต้องเน้นย้ำถึงเป้าหมายที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ เช่นเดียวกับความเป็นกลางคาร์บอน 100% ภายในปีค.ศ. 2050
นายชาร์ลส์ ลิน รองนายกเทศมนตรีเมืองเกาสง ไต้หวัน กล่าวว่า เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของงาน SCSE เป็นแพลตฟอร์มเพื่อแสดงโซลูชันเมืองอัจฉริยะ และการจัดแสดงสินค้า พร้อมด้วยโซลูชั่นต่างๆ ที่ปรับให้เหมาะกับตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมาทั่วโลกจะรู้จักไต้หวันในฐานะเมืองที่ผลิตฮาร์ดแวร์และเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูง แต่ทางด้านโซลูชัน ซอฟต์แวร์ของไต้หวันเราก็มีความโดดเด่นในตลาดโลกเช่นกัน พร้อมย้ำถึงความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเมืองเกาสงและบทบาทหลักในการพยายามสร้างเมืองอัจฉริยะของไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการผสมผสานคุณลักษณะของเมืองอัจฉริยะเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีขึ้นแก่ประชาชน
ทางด้านนายมาร์ค อิริค (Marc Elrich) ผู้บริหารเขตมอนต์โกเมอรี่จากสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวยกย่องถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีที่จัดแสดงนิทรรศการและการประชุมสุดยอดเมืองอัจฉริยะครั้งนี้ นอกจากนี้ระบุว่ารัฐบาลของเรามีบทบาทสำคัญโดยได้มีการจำลองอาคาร เพื่อบริหารจัดการการใช้แผงโซลาร์เซลล์บนผนังหรือการแปลงไฮโดรเจนชนิดใดก็ตามที่สามารถทำได้โดยทำในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งเมืองมอนต์โกเมอรี่ได้พิสูจน์แล้วว่าวิธีนี้ใช้ได้ผล เราก็สามารถแบ่งปันและประยุกต์ใช้ในรัฐอื่นๆ ได้เช่นกัน พร้อมระบุว่าเทคโนโลยีไฮโดรเจนเป็นตัวอย่างของความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการทำให้ไฟฟ้าสะอาด 100% ภายในปีพ.ศ. 2578 พร้อมด้วยเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ประสบการณ์และเน้นย้ำถึงศักยภาพของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของเมืองอัจฉริยะทั่วโลก
นาย Vitezslav Schrek ประธาน ภูมิภาค Vysočina สาธารณรัฐเช็ก กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างสาธารณรัฐเช็กและไต้หวันที่ดำเนินมาหลายปีแล้ว โดยเน้นย้ำถึงประสบการณ์และแรงบันดาลใจที่ได้รับจากการเยือนไต้หวัน พร้อมด้วยการศึกษาแนวทาง วิธีการใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งด้านการดูแลสุขภาพ การจราจร ซึ่งงานในครั้งนี้ได้จัดแสดงนิทรรศการ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาดังกล่าวได้
นายเดวิด กอลเดง (David Golding) หัวหน้าฝ่ายความร่วมมือด้านนวัตกรรมระดับโลก Innovate UK ได้ให้มุมมองและ
สะท้อนถึงความร่วมมือ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของพันธมิตรในการจัดการกับความท้าทายระดับโลกร่วมกัน และ Golding เน้นย้ำถึงการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับกรมเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเพื่อนำไปสู่การทำงานร่วมกันและขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ