วันนี้ (25 มิ.ย. 65) นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า วันนี้ ตนได้พบปะและพูดคุยกับผู้แทนเครือข่ายหญิงไทยในยุโรปจากประเทศฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมนี โดยรับเร่งประสานงานหน่วยงานราชการไทยแบบ One Stop Service เพื่อช่วยแก้ปัญหาหลากหลายที่เกิดขึ้น อีกทั้งส่งเสริมอาชีพ ให้คำปรึกษาจิตวิทยา ตลอดจนลูกครึ่งชายไทยในต่างประเทศที่ต้องเกณฑ์ทหาร
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า การพบปะกันครั้งนี้เกิดขึ้นที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างที่ ตน พร้อมด้วยนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะเเห่งชาติ เดินทางเข้าร่วมการประชุม World Urban Forum ครั้งที่ 11 ณ ประเทศโปแลนด์ ทั้งนี้ จึงถือโอกาสนี้ พบปะกับเครือข่ายหญิงไทยในยุโรป สมาคมไทย-โพรวองซ์ นครมาร์แซย์ (Association Thaïe-Provence, Marseille) ฝรั่งเศส องค์กร Help Thai (ฝรั่งเศส - ประเทศไทย) และผู้แทนเครือข่ายจากประเทศอิตาลี และเยอรมัน เพื่อรับฟังถึงแนวทางการทำงานร่วมกันและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
คุณจงเจริญ ศรแก้ว กริมสมันน์ รองประธานเครือข่ายหญิงไทยในยุโรป ได้เสนอว่าการดำเนินการช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ ปัจจุบันยังทำแยกส่วน จึงไม่สามารถทำการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงขอให้ รมว.พม. แสวงหาแนวทางแก้ปัญหาแบบ One Stop Service รวมทั้งปัญหาการเกณฑ์ทหารของลูกครึ่งชายไทย
คุณน้ำทิพย์ เสน่หา ผู้แทนสมาคมไทย-โพรวองซ์ ได้เสนอปัญหาว่า คนไทยในต่างประเทศประสบปัญหาการปรับตัวในการใช้ชีวิต จึงต้องการนักจิตวิทยาที่เป็นคนไทยและเข้าใจสภาพปัญหาของคนไทยในต่างประเทศ ทั้งนี้ จึงขอให้ รมว.พม. ช่วยเหลือในประเด็นดังกล่าว ส่วนสมาชิกไทย-โพรวองซ์ ได้กล่าวถึงเด็กที่ถือสองสัญชาติซึ่งยังประสบปัญหาด้านกฎหมายหลายประการ
คุณทวีพร บรันดท์ ผู้แทนจากประเทศเยอรมนีได้เสนอถึงความต้องการของผู้ประกอบอาชีพนักจิตวิทยา และผู้ช่วยพยาบาลชาวไทยในประเทศเยอรมนี ซึ่งจะเป็นการดี หากมีการเตรียมความพร้อมสำหรับคนที่จะมาทำงาน
คุณนุชนารถ วรรณขาว ผู้แทนจากประเทศอิตาลี ได้กล่าวถึงความต้องการพื้นที่ตลาดนัดสินค้าและอาหารไทยที่สอดแทรกวัฒนธรรมซึ่งกำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในปัจจุบัน
น้องพลอย ผู้ซึ่งประสบปัญหาจากการเข้าร่วมโครงการพี่เลี้ยงเด็ก (ออแพร์) ที่มาขอความช่วยเหลือที่กรุงปารีส ได้ขอให้กระทรวง พม. เป็นหน่วยงานช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งสำหรับคนไทยที่ประสบปัญหา
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้ตอบรับที่จะไปบูรณาการข้ามกระทรวง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ฯลฯ ในเรื่องการส่งเสริมอาชีพที่สามารถดำเนินการได้รวดเร็วและน่าจะประสบความสำเร็จคือ การส่งเชฟชื่อดังของไทยมาช่วยอบรมเพิ่มเติมความรู้ด้านอาหารไทย ยิ่งไปกว่านั้น ในโอกาสนี้ ตนได้แต่งตั้งผู้แทนหญิงไทยรวมทั้งหมด 12 ท่าน ให้เป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) กิตติมศักดิ์ และเป็นตัวแทนกระทรวง พม. ในต่างประเทศ เรียกว่า Thai Community Ambassador เพื่อเป็นผู้ประสานความช่วยเหลือของกระทรวง พม. โดยตรงให้กับคนไทยในต่างประเทศอีกด้วย