7กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะผู้ประกอบการไทย ใช้ช่องทางออนไลน์ขายสินค้าเจาะกลุ่มผู้บริโภคชาวบราซิล หลังเติบโตสูงมากช่วงโควิด-19 ระบาด ระบุควรเจาะผ่านแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ ใช้ภาษาโปตุเกส และควรคำนึงถึงระยะเวลาในการส่งสินค้า
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซาเปาโล ถึงโอกาสในการขยายตลาดสินค้าของไทยผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ปัจจุบันกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากที่ปีที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการค้าขาย ขณะที่ผู้บริโภคก็หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นด้วย
“กรมฯ ได้รับรายงานจากทูตพาณิชย์ที่บราซิลว่าปัจจุบันการค้าออนไลน์ได้กลายเป็นเทรนด์ใหม่ และได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ยอดการสั่งซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีผู้บริโภครายใหม่ที่หันมาซื้อออนไลน์ ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าอีคอมเมิร์ซทวีบทบาทสำคัญมากขึ้นในตลาดลาตินอเมริกา โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมในตลาดการค้าออนไลน์มาโดยตลอด ได้แก่ สินค้าแฟชั่น สุขภาพและความงาม อุปกรณ์เสริม เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าบ้านและสวน เป็นต้น”
นอกจากนี้ ยังพบว่า การใช้บัตรเครดิตเพื่อเป็นช่องทางการชำระเงินการซื้อสินค้าออนไลน์ ก็ได้รับความนิยมสูงสุดอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยมากกว่า 50% เป็นการชำระโดยบัตรเครดิตของลูกค้า และผู้บริโภคชาวบราซิลยังคงต้องการใช้บัตรเครดิตและนิยมซื้อแบบผ่อนชำระเป็นงวด หรือช่องทางการเงินอื่นในการซื้อสินค้าราคาแพง เพื่อแบ่งเบาภาระในการชำระเงิน
สำหรับแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยม คือ Nuvemshop มีบริการกว่า 200 แอปพลิเคชัน มีการจัดการด้านการขนส่ง โลจิสติกส์ และกระบวนการจ่ายเงินที่ครบวงจร สามารถเชื่อมระบบและส่งสินค้าไปยังเมืองต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวมุ่งเน้นผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดกลางที่มีรายได้เกิน 100,000 เฮอัล หรือประมาณ 680,000 บาท โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวมีบริการจัดทีมวิศวกรและเทคนิคสนับสนุนเพื่อช่วยพัฒนาการดำเนินธุรกิจออนไลน์ของผู้ประกอบการ คาดว่าในปี 2565 จะมีบริษัทที่ใช้แพลตฟอร์มนี้กว่า 300 ราย ทั้งนี้ Nuvemshop กำเนิดในอาร์เจนตินา ในปี 2554 เป็นหนึ่งในผู้นำทางการตลาดออนไลน์ และขยายตลาดสู่บราซิล โดยมีการขยายตัวจากปี 2563 จาก 70,000 ราย เป็น 95,000 ราย
ส่วนเว็บไซต์ที่สำคัญและเป็นที่นิยมในบราซิลในปี 2565 ซึ่งมีทั้งเว็ปไซต์ท้องถิ่น และเว็ปไซต์ระหว่างประเทศ โดยห้างสรรพสินค้าชั้นนำก็หันมาจำหน่ายสินค้าออนไลน์มากขึ้น ได้แก่ 1.Mercado Livre จำหน่ายสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว (มีผู้ติดตามกว่า 260 ล้านราย) 2.Americanas จำหน่ายสินค้าจำพวกสินค้าที่เกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า เครื่องใช้ในครัว เครื่องมือ และของเล่น (มีผู้ติดตามกว่า 134 ล้านราย) 3.OLX จำหน่ายสินค้าจำพวก ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือการเกษตร เครื่องใช้ในบ้าน สินค้าแฟชั่นและความงาม (มีผู้ติดตามกว่า 100 ล้านราย) 4.Amazon Brazil จำหน่ายสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ เกมส์ สินค้าแฟชั่น เครื่องประดับและอาหาร (มีผู้ติดตามกว่า 54 ล้านราย) 5.Magazine Luiza จำหน่ายสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือสื่อสาร เฟอร์นิเจอร์และเครื่องครัว (มีผู้ติดตามกว่า 50 ล้านราย)
“ปัจจุบัน บราซิลเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับการค้าออนไลน์และเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคกว่าครึ่ง นิยมซื้อออนไลน์แบบผ่อนชำระมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาแพง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ เฟอร์นิเจอร์ จึงเป็นโอกาสทางการค้าของสินค้าไทยในการขายแบบออนไลน์ภายใต้แพลตฟอร์มและเว็ปไซต์ที่เชื่อถือได้ และเป็นที่นิยมของตลาดบราซิล เพื่อสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างได้มากขึ้น และควรใช้ภาษาโปรตุเกส โดยระยะเวลาขนส่งเฉลี่ยจากไทยมายังบราซิลประมาณ 30-50 วัน ผู้ประกอบการไทยควรคำนึงถึงอายุของสินค้าและความปลอดภัยในการขนส่ง เพื่อไม่ให้สินค้ามีการชำรุดในระหว่างการขนส่ง”นายภูสิตกล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169