วันนี้ (7 มีนาคม 2566) นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เป็นประธานเปิดการสัมมนาเครือข่ายสถาบันการศึกษาที่เป็นสถานฝึกอบรมหลักสูตรวิชามัคคุเทศก์และหลักสูตรผู้นำเที่ยว ณ ห้องบีบี 201 ชั้น 2 โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ โดยผู้เข้าร่วมการสัมมนาประกอบด้วยผู้แทนสถาบันการศึกษาที่ได้รับการประกาศให้เป็นสถานฝึกอบรมหลักสูตรวิชามัคคุเทศก์และหลักสูตรผู้นำเที่ยว จำนวน 24 สถาบัน และผู้แทนกรมการท่องเที่ยว รวมจำนวนทั้งสิ้น 75 คน การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถาบันการศึกษาที่เป็นสถานฝึกอบรมหลักสูตรวิชามัคคุเทศก์ สถานฝึกอบรมหลักสูตรผู้นำเที่ยว และศูนย์การอบรมและทดสอบความรู้ความสามารถในการต่ออายุใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ ได้พบปะเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน รับทราบและเข้าใจถึงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอความเห็นชอบในการจัดการฝึกอบรมวิชามัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยว ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการฝึกอบรมหลักสูตรวิชามัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยวให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนวิชามัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยวเป็นอย่างมาก ประกอบกับมีมัคคุเทศก์จำนวนมากที่ใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์สิ้นสุด และไม่สามารถปฏิบัติงานได้จำนวนกว่า 8,000 ราย ดังนั้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ใบอนุญาตสิ้นสุดกลับเข้ามาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ได้ถูกต้องตามกฎหมายอีกครั้ง กรมการท่องเที่ยวจึงได้จัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมวิชามัคคุเทศก์ สำหรับผู้ที่เคยได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ พ.ศ. ๒๕๖๖ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้น จำนวน ๓๐ ชั่วโมง เพื่อให้ได้รับวุฒิบัตรผ่านการฝึกอบรมไปประกอบการขอรับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงหลักสูตรอบรมผู้นำเที่ยว พ.ศ. ๒๕๖๕ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๖ ซึ่งมีการปรับลดจำนวนชั่วโมงให้มีความกระชับ เพิ่มเนื้อหาวิชาที่ทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมและสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงปรับเปลี่ยนการฝึกปฏิบัติงานนำเที่ยวในสถานการณ์จริง เป็นการฝึกปฏิบัติงานนำเที่ยวในสถานการณ์จำลองในห้องปฏิบัติการ และศึกษาดูงานในท่าอากาศยานนานาชาติแทน

รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวเน้นย้ำเพิ่มเติมว่า “ขอให้สถานฝึกอบรมฯ บูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อก่อให้เกิดเครือข่ายระหว่างกรมการท่องเที่ยวและสถานฝึกอบรม โดยขอให้คำนึงถึงคุณภาพของวิทยากรผู้สอน ผู้ประสานการจัดการอบรม และการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรมอย่างรอบคอบ เพื่อคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์”