เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว พร้อมด้วยผู้บริหาร ให้การต้อนรับ Mr. KIM, Byumg Chul กงสุลใหญ่จากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ณ ห้องรับรอง ชั้น 3 กรมการท่องเที่ยว อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือแผนการดำเนินงานในการรองรับนักท่องเที่ยวสัญชาติเกาหลีที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในปี 2566 นี้ โดยเฉพาะความพร้อมในด้านมัคคุเทศก์ที่สื่อสารภาษาเกาหลีได้ ต้องมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว
Mr. KIM, Byumg Chul กงสุลใหญ่จากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า คนสูงอายุของเกาหลีนิยมเดินทางมาประเทศไทยเพื่อทำธุรกิจและพักผ่อนด้วยการตีกอล์ฟ ส่วนวัยรุ่นเกาหลีจะชื่นชอบอาหารและการเดินเที่ยวตลาดในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้รับผลกระทบมาก และทราบว่ามัคคุเทศก์หลายรายไม่ได้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์แล้ว จึงมีความกังวลเกี่ยวกับจำนวนมัคคุเทศก์ไทยที่สื่อสารภาษาเกาหลีได้ อาจไม่เพียงพอสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวสัญชาติเกาหลีที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในขณะนี้ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมมัคคุเทศก์ภาษาเกาหลีให้มีจำนวนเพียงพอสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวสัญชาติเกาหลีที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวคนที่ 10 ล้านเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งคาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 25 ล้านคน และคาดว่าจะถึง 80 ล้านคนภายในปี 2570 ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีก็เป็นหนึ่งในจำนวนที่คาดการณ์นี้ด้วย กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความยินดีที่จะร่วมมือกับทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย โดยปัจจุบันประเทศไทยมีมัคคุเทศก์ภาษาเกาหลีกว่า 800 คน ซึ่งยังเพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีที่จัดอบรมภาษาเกาหลีให้แก่มัคคุเทศก์จำนวนหลายรุ่น ทำให้ปัจจุบันยังไม่พบปัญหาการขาดแคลนมัคคุเทศก์ที่สื่อสารภาษาเกาหลีได้
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีมีแนวโน้มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง กรมการท่องเที่ยวจะร่วมหารือกับชมรมมัคคุเทศก์ภาษาเกาหลี และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมทั้งด้านผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ส่งเสริมให้คนไทยที่ไม่ใช่มัคคุเทศก์ แต่สื่อสารภาษาเกาหลีได้ เข้ารับการอบรมเป็นมัคคุเทศก์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงพิจารณาเปิดโอกาสให้คนสัญชาติเกาหลีเข้ารับการอบรม เพื่อเป็นผู้ประสานงานเกาหลีต่อไป และหลังจากนี้จะร่วมมือกันพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป