วันนี้ (3 ก.ค. 2565) เวลา 08.30 น. ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม นายอนุกูล ปีดแก้ว อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธานในพิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ประจำปี 2565 จำนวน 174 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายอนุกูล กล่าวว่า สำหรับการจัดพิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ภายใต้โครงการ “พระธรรมจาริก” ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (กรมประชาสงเคราะห์เดิม) กับมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ราษฎรบนพื้นที่สูง พัฒนาทางคุณภาพชีวิตทั้งทางด้านจิตใจ การศึกษา การพยาบาล ฯลฯ สร้างจิตสำนึกให้ราษฎรบนพื้นที่สูงรู้จักสำนึกในความเป็นไทย และจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการพระธรรมจาริก ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในการถวายปัจจัย เครื่องอุปโภคบริโภค และสนับสนุน การพัฒนางานพระธรรมจาริกมาโดยตลอด
นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า พิธีดังกล่าวได้ปฏิบัติสืบทอดมาเป็นเวลากว่า 57 ปี ปัจจุบันมีราษฎรบนพื้นที่สูงเข้าร่วมบรรพชาอุปสมบทแล้ว รวมทั้งสิ้น 11,780 รูป โดยเกิดขึ้นจากความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของพี่น้องราษฎรบนพื้นที่สูงที่จะสืบสานพระพุทธศาสนาถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งในปีนี้ มีบุตรหลานราษฎรบนพื้นที่สูง 9 ชนเผ่า ประกอบด้วย กะเหรี่ยง ม้ง ลาหู่ ลีซู ลั๊วะ ถิ่น ขมุ เมี่ยน อาข่า และราษฎรพื้นที่ราบถิ่นกันดารที่เลื่อมใสขอบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา รวมทั้งสิ้น 174 รูป เป็นสามเณร 79 รูป และพระภิกษุ 95 รูป โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ราษฎรบนพื้นที่สูงที่เข้ารับการบรรพชาอุปสมบทครั้งนี้ จะได้รับการศึกษาเรียนรู้พระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา การหล่อหลอมขัดเกลาจิตใจ สามารถดำรงตนอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม และสานต่อพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว ตลอดจนนำพาตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติให้มีความร่มเย็นเป็นสุขสืบไป
กระทรวง พม. ขอเป็นสื่อกลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ราษฎรบนพื้นที่สูงของคณะพระธรรมจาริก แม้ความห่างไกลจะเป็นอุปสรรค แต่ศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนาของคณะพระธรรมจาริก จะนำพาชีวิตราษฎรบนพื้นที่สูงให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป นายอนุกูล กล่าวในต้อนท้าย