กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โชว์ผลงานนำผู้ประกอบการสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Salone del Mobile 2022 ในอิตาลี สินค้าไทยที่นำวัสดุเหลือใช้มาผลิตตามแนวทาง BCG ได้รับความสนใจ และเข้าชมเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้จัดจำหน่าย รีสอร์ต โรงแรม นักออกแบบ และธุรกิจเรือยอร์ช คาดมียอดสั่งซื้อทันทีและภายใน 1 ปีกว่า 60 ล้านบาท
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ ล่าสุดได้รับรายงานจาก นางสาวอนงค์นารถ
มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ เมืองมิลาน อิตาลี ถึงผลการนำผู้ประกอบการสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านจำนวน 11 บริษัท ภายใต้โครงการพัฒนาและเจาะตลาดสินค้า Hospitality (Host & Home) ในตลาดอิตาลี เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Salone del Mobile 2022 ระหว่างวันที่ 7-12 มิถุนายน 2565 ณ อาคาร 8 เลขที่คูหา B37 ศูนย์แสดงสินค้า Fiera Milano เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งประสบความสำเร็จเกินคาด โดยเฉพาะสินค้าที่มีการนำวัสดุเหลือใช้นำกลับมาใช้ใหม่ตามแนวทาง BCG
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่าผลการจัดงานทั้ง 6 วัน ปรากฏว่า คูหาของประเทศไทยได้รับความสนใจอย่างมาก โดยการจัดคูหาในครั้งนี้ ออกแบบโดย Mr.Alberto Grassi ที่ปรึกษาชาวอิตาเลียน ที่ได้นำสินค้าทั้ง 11 บริษัท จัดวางนำเสนอเป็นภาพรวมของสินค้าโครงการ Host & Home สินค้าทุกชิ้นจึงมีความโดดเด่นอย่างลงตัว ได้รับความสนใจและชื่นชมจากผู้เข้าชมงานเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรสินค้าที่มีดีไซน์ทันสมัย สินค้ามีความหลากหลายและสามารถใช้งานได้จริง มีการนำเอาวัสดุที่เหลือใช้นำกลับมาใช้ใหม่ตามแนวทาง BCG การให้ความสำคัญกับวัสดุที่ใช้ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมุ่งสู่ความยั่งยืนตามแนวโน้มเรื่อง Sustainability ที่ตลาดยุโรปได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากซึ่งในปีนี้มีประเทศในแถบเอเชียที่จัดแสดงในงานเพียง 3 ประเทศ คือ ไทย ญี่ปุ่น และอินเดียจึงทำให้คูหาของประเทศไทยได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ
โดยผลของการจัดงาน มีผู้เข้าชมคูหาของไทยมากกว่า 3,000 คน ได้แก่ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน รีสอร์ต โรงแรมที่พัก ผู้จัดงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ นักออกแบบ และธุรกิจเรือยอร์ช เป็นต้น
มีประเทศที่สนใจสินค้าของโครงการ ได้แก่ อิตาลี อินเดีย ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน บราซิล ตุรกี อิสราเอล สหรัฐฯ โปแลนด์ และซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น โดยผู้ประกอบการไทยได้พบปะลูกค้ารายใหม่ ๆ จำนวนมาก โดยทูตพาณิชย์ได้ทำการสัมภาษณ์ และเก็บข้อมูลผู้มาเยี่ยมชม และเจรจาธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการไทย คาดว่าจะมีการสั่งซื้อสินค้าทันที 320,000 เหรียญสหรัฐ และสั่งซื้อสินค้าภายใน 1 ปี 1,450,000 เหรียญสหรัฐ
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169