วันนี้ ( 5 พ.ค. 65) เวลา 14.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นประธานเปิดโครงการ "พัฒนาคุณภาพคนทุกช่วงวัยในจังหวัดพิษณุโลก อย่างมีคุณภาพ มุ่งสู่การเป็นเมือง Happiness City" กิจกรรม "ครอบครัววิถีใหม่ สู่สังคมเข้มแข็งและความสุขอย่างยั่งยืน รุ่นที่ 4" (อำเภอวังทอง นครไทย และชาติตระการ) และ กิจกรรม "Line Official Accounts พม.พิษณุโลก พร้อมช่วย"
ซึ่งเป็นระบบแจ้งเหตุด่วน โดยทีมพัฒนาระบบ พม.พิษณุโลก มูลนิธิศูนย์วิจัยและติดตามความเป็นธรรมทางสุขภาพ และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) อีกทั้งเยี่ยมชมบูธหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ทั้งนี้ นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมงาน นอกจากนี้ ได้มอบเงินสงเคราะห์รายบุคคลจากกองทุนคุ้มครองเด็กและรถวีลแชร์ จำนวน 1 คัน ให้กับนายนฤสร ศรีสะอาด ภายใต้กิจกรรมการบูรณาการการให้ความช่วยเหลือครัวเรือนเปราะบาง ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ พิษณุโลก
นายจุติ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของประชาชนทั้งในมิติด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อม เพื่อให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชนในการจัดการตนเอง รวมไปถึงการพัฒนาศักยภาพของทุกภาคส่วนให้เข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ โดยสนับสนุนการร่วมคิด ร่วมทำเพื่อสังคมส่วนรวม และสามารถพึ่งตนเอง ทำประโยชน์แก่ครอบครัวและชุมชนได้ ซึ่งจังหวัดพิษณุโลกมีนโยบายสำคัญในการดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีความเดือดร้อน ยากจน รวมถึงกลุ่มคนเปราะบาง
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการ "พัฒนาคุณภาพคนทุกช่วงวัยในจังหวัดพิษณุโลก อย่างมีคุณภาพ มุ่งสู่การเป็นเมือง Happiness City" และกิจกรรม "ครอบครัววิถีใหม่ สู่สังคมเข้มแข็ง และความสุขอย่างยั่งยืน รุ่นที่ 4" ซึ่งกระทรวง พม. โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ได้จัดขึ้นนั้น
จะเป็นโครงการที่เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาในทุกมิติ โดยการให้ความรู้เรื่องกระบวนการพัฒนาศักยภาพของครอบครัว ความรู้ทางด้านจิตวิทยาครอบครัว ทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิต รวมไปถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ผ่านกลไกการทำงานของศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล เพื่อพัฒนาศักยภาพให้แก่อาสาสมัครครอบครัวในชุมชน ประธานและคณะทำงานศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลในพื้นที่อำเภอวังทอง นครไทย และชาติตระการ อีกทั้งจะช่วยเพิ่มพูนทักษะและความรู้ในการดูแลและช่วยเหลือกลุ่มคนยากจนและกลุ่มคนเปราะบางของจังหวัดพิษณุโลก
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ทุกคนทำงานแบบพุ่งเป้าเพื่อผลสัมฤทธิ์และเพื่อประชาชน ซึ่งการจัดโครงการในวันนี้ มีการดำเนินงานมาแล้วกว่า 6 เดือน และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งวันนี้เราเริ่มจากการลดความรุนแรงในครอบครัว การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบางอย่างครบวงจร ซึ่งทุกกระทรวงมีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น เด็กไม่ได้รับการศึกษา คนตกงาน พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว คนพิการไม่ได้รับการเยียวยา บ้านที่อยู่อาศัยมีปัญหา เป็นต้น โดยเราจะดำเนินการแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติด้วยการบูรณาการร่วมกัน ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยโครงการนี้เป็นการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาช่วยเหลือดูแลเรื่องการลดความรุนแรงในครอบครัว
และมีอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ช่วยเหลือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์และยาเสพติด รวมทั้งการสร้างคนให้เป็นคน สร้างมนุษย์ให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างกลุ่มเยาวชนให้มีทักษะความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ นอกจากนี้ จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำงาน เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจะถูกบันทึกไว้ในระบบ ข้อมูลจะไม่สูญหาย มีการใช้เอกสารน้อยลง ทำให้มีความแม่นยำและช่วยประหยัดเวลามากขึ้น