วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2565 ณ สนามกีฬา โรงเรียนวัดทองนพคุณ กทม. เวลา 13.00 น. นางจตุพร โรจพานิช อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เป็นประธานส่งมอบสิ่งของให้แก่นักเรียน ภายใต้โครงการเปิดเทอมใหม่ ปันน้ำใจ ส่งน้องไปเรียน (Back to School) เพื่อให้เด็กมีสิ่งของทางการศึกษาพร้อมส้าหรับการเปิดภาคการศึกษา 2565 นี้
นางจตุพรเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีเด็กเสี่ยงที่จะหลุดจากระบบการศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากต้นทุนการศึกษาสูงเกินแบกรับและครัวเรือนยากจนเฉียบพลัน ดังนั้น เพื่อเป็นแบ่งเบาภาระของครอบครัวทางด้านการศึกษา การซื้ออุปกรณ์การเรียน และการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมการรวมกลุ่มของเครือข่ายจิตอาสา ในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ ที่จะร่วมสร้าง “สังคมแห่งการแบ่งปัน” ซึ่งเป็นไปตามบทบาทของกระทรวง พม. ในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการช่วยเหลือเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาและออกกลางคันกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา
ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) โครงการส่งเสริมโอกาสความเสมอภาคและความเท่าเทียม ทางการศึกษา“พาน้องกลับมาเรียน” ที่ขับเคลื่อนร่วมกันกับภาคีหน่วยงาน 11 หน่วยงาน กระทรวง พม. จึงได้บูรณาการทำางานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในจังหวัดในสังกัดกระทรวง พม. ในลักษณะ One Home รวมไปถึงภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนในพื้นที่เพื่อดำเนิน “โครงการเปิดเทอมใหม่ ปันน้ำใจ ส่งน้องไปเรียน (Back – to – School)” โดยเริ่มเปิดรับบริจาคสิ่งของมาตั้งแต่ 22 มีนาคม เรื่อยมาจนถึงวันนี้ เป็นการรับบริจาคสิ่งของจากประชาชนเพื่อสนับสนุนการศึกษาให้แก่นักเรียน ที่ต้องการการสนับสนุนทั่วประเทศจากฐานข้อมูลของกระทรวงฯ รวมถึงเด็กที่มีสัญชาติไทยและไม่มีสัญชาติไทย
ในวันนี้ เป็นการนำสิ่งของที่ได้รับบริจาคจากโครงการเปิดเทอมใหม่ ปันน้ำใจ ส่งน้องไปเรียน (Back to School) ส่งมอบให้แก่นักเรียนโรงเรียนวัดทองนพคุณ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 รวม จำนวน 112 ราย สิ่งของที่นำมา ในวันนี้ เป็นอุปกรณ์เครื่องเขียน หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ กล่องอาหาร กระบอกน้ำ แปรงสีฟัน/ยาสีฟัน และอุปกรณ์กีฬา
นอกจากการมอบสิ่งของสนับสนุนการศึกษาให้แก่เด็กที่ต้องการการสนับสนุนทั่วประเทศแล้ว นักสังคมสงเคราะห์ทำงานร่วมกับครู ลงเยี่ยมบ้าน ประเมินสภาพปัญหาเพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนเด็กสอดคล้องกับความต้องการของเด็ก โดยมีการบันทึกข้อมูลลงในสมุดพกครอบครัว และระบบสารสนเทศเพื่อการคุ้มครองเด็ก (Child Protection Information System: CPIS) สำหรับการติดตามช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่ได้ร่วมบริจาคสิ่งของ รวมไปถึงร่วมเป็นจิตอาสาในการช่วยรับบริจาคและคัดแยกสิ่งของ สร้างพลังทางสังคม และสร้างแรงกระเพื่อมของการเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังด้วยการพาน้องกลับมาเรียน