บรรยายภาพ: ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี (ที่ 4 จากซ้าย)เอกอัครราชทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย และ จูเซปเป ลามัคเคีย (ที่ 3 จากซ้าย) ข้าหลวงพาณิชย์ ประจำสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ฝ่ายส่งเสริมการค้า แห่งสถานทูตอิตาลีประจำประเทศไทย) พร้อมด้วย โอลิวิเยร์ บรง (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล และธาพิดา นรพัลลภ (ที่ 6 จากซ้าย) ประธานบริหาร ฝ่ายบริหารสินค้ากลุ่มแฟชั่น บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวประกาศการ จัดงาน “Dolce Italia” ประจำปี 2023 มหกรรมสินค้าอิตาลีสุดยิ่งใหญ่แห่งปี นำเสนอสินค้าอิตาลีคุณภาพเยี่ยมกว่า 50 แบรนด์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. – 30 เม.ย. 2566 ที่บริเวณชั้น 1 ห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล ชิดลม
กรุงเทพฯ 8 มีนาคม 2566 —
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ITA) จัดงาน “Dolce Italia” ประจำปี 2023 มหกรรมสินค้าอิตาลีสุดยิ่งใหญ่แห่งปี นำเสนอสินค้าอิตาลีคุณภาพเยี่
ยมกว่า 50 แบรนด์ ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันทั้
งในหมวดหมู่
แฟชั่น ครบถ้วนทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ตลอดจนแบรนด์ความงามและน้ำหอม ไฮไลท์พิเศษสำหรับปีนี้! เพลิดเพลินกับแบรนด์ของใช้ของตกแต่งบ้านสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งหมดส่งตรงจากอิตาลีให้ลูกค้
าได้เลือกช้อปสินค้าอิมพอร์
ตมาตรฐาน Made In Italy ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้
นำทางด้านคุณภาพ ดีไซน์ และรสนิยมอันรุ่มรวยระดับโลก พร้อมอัปเดตเทรนด์ใหม่ล่าสุด
ในคอนเซ็ปต์ “The Party in Italian Garden” อันอบอวลด้วยเสน่ห์และกลิ่
นอายความเป็นอิตาลี พร้อมโปรโมชันและของขวัญสุดพิ
เศษให้ลูกค้าเซ็นทรัลทั้
งชาวไทยและต่างชาติได้ช้อปเพลิ
นกันตลอดทั้งแคมเปญ ตั้งแต่
วันที่ 8 มี.ค. – 30 เม.ย. 2566 ที่บริเวณชั้น 1 ห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล ชิดลม
ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย กล่าวถึงการจัดงาน
“Dolce Italia” ประจำปี 2023 ครั้งนี้ว่า “ประเทศอิตาลีและไทยมีความสัมพั
นธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้
นมายาวนาน ภายใต้ความร่วมมือที่ครอบคลุ
มหลากหลายด้าน ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม วันนี้เราได้เดินหน้าสานต่
อการเป็นพันธมิตรกับห้างสรรพสิ
นค้าเซ็นทรัลเพื่อนำเสนอแบรนด์
สินค้าจากอิตาลีที่โด่งดังไปทั่
วโลกให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ละแบรนด์ที่คัดสรรมาร่
วมจำหน่ายในแคมเปญล้วนสะท้อนให้
เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และหั
ตถศิลป์ชั้นเลิศของชาวอิตาลี
ในการออกแบบสินค้าแฟชั่น ผลิตภัณฑ์ความงาม ตลอดจนของใช้ของตกแต่งในบ้าน โดยการร่วมมือของเราในครั้งนี้
ถือเป็นการเฉลิมฉลอง 155 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทู
ตและการค้ากับประเทศไทยได้อย่
างยอดเยี่ยม เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่
าการสานต่อความร่วมมือกับห้
างเซ็นทรัลในครั้งนี้จะช่วยเสริ
มภาพลักษณ์อันดีของสินค้าคุ
ณภาพจากอิตาลี พร้อมยังส่งเสริมโอกาสทางการค้
าและการขยายฐานลูกค้าของแบรนด์
อิตาลีได้เป็นอย่างดี”
ด้าน
จูเซปเป ลามัคเคีย ข้าหลวงพาณิชย์ ประจำสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ฝ่ายส่งเสริมการค้า แห่งสถานทูตอิตาลีประจำประเทศไทย) กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างหน่
วยงานของอิตาลีและห้างเซ็นทรัล ว่า “สำหรับปี 2566 สำนักงานพาณิชย์อิตาเลี
ยนประจำประเทศไทย (ITA) ได้ร่วมงานกับห้างเซ็นทรัล ในแคมเปญ
“Dolce Italia” ประจำปี 2023 หลังจากความร่วมมือที่
ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่
งในปี 2564 โดย ห้างเซ็นทรัล มีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้
นำในตลาดค้าปลีกทั้งออฟไลน์
และออนไลน์ของไทยที่มีศั
กยภาพในการส่งเสริมสินค้าของอิ
ตาลีซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพสู
งจากท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จั
กในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัล ยังเป็นกลุ่มธุรกิจชั้นนำที่ร่
วมขับเคลื่อนความร่วมมือทางธุ
รกิจระหว่างอิตาลี
และประเทศไทยมาโดยตลอด โดยล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัล ได้ร่วมการประชุม Italian-Thai Business Forum ครั้งที่ 8 เพื่อร่วมกำหนดความร่วมมื
อและการสานความสัมพันธ์
ในหลากหลายมิติ อันจะนำไปสู่การเติ
บโตทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่
างสองประเทศ เรามั่นใจว่าแคมเปญ ‘Dolce Italia’ ในครั้งนี้จะช่วยโปรโมตแบรนด์
ยอดนิยมของอิตาลี ทั้งในหมวดหมู่แฟชั่น ความงามและน้ำหอม รวมถึงของใช้และของตกแต่งบ้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
อิตาลีเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกชั้นนำของโลก โดยในปี 2565 ระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน มูลค่าการส่งสินค้าออกสู่ทั่วโลกทั้งหมดของอิตาลีอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท (ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอิตาลี - ISTAT) ซึ่งการนำเข้าสินค้าจากอิตาลี
ของประเทศไทยมีมูลค่ารวม 62.156 พันล้านบาท โดยจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ อิตาลีเป็นคู่ค้าอันดับ 22 ของประเทศไทย และมีมูลค่าการนำเข้าสูงขึ้น 0.94% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึ
งการเติบโตทางการค้าของอิตาลี
และไทยอย่างมหาศาล โดยการเสาะหาโอกาสทางการค้าเพิ่
มเติมจะช่วยหนุนการเติบโตร่วมกั
นอย่างยั่งยืนสำหรับทั้
งสองประเทศ งาน “Dolce Italia” ประจำปี 2023 จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคั
ญในการส่งเสริมยอดขายให้สินค้
าแฟชั่นของอิตาลี
ในประเทศไทยตลอดทั้งปีนี้
อิตาลียังเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกสินค้าแฟชั่นที่สำคัญที่สุดของโลก โดยมูลค่าการนำเข้าสินค้าแฟชั่
นจากอิตาลีของประเทศไทยอยู่ที่ 25,609 ล้านบาทในปี 2565 โดยสินค้าแฟชั่นที่นำเข้ามา 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. เครื่องหนัง (มูลค่า 10,691 ล้านบาท เติบโต 31.99% เทียบกับปีก่อน) 2. เครื่องประดับเพชรพลอย (7,526 ล้านบาท เติบโต 1.34% เทียบกับปีก่อน) 3. รองเท้า (3,135 ล้านบาท เติบโต 14.26% เทียบกับปีก่อน) 4. เสื้อผ้า (1,724 ล้านบาท เติบโต 8.41% เทียบกับปีก่อน) และ 5. ขนสัตว์ (37 ล้านบาท เติบโต 0.64% เทียบกับปีก่อน) (ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์)
คาดการณ์ว่าตลาดสินค้านำเข้
าจากอิตาลีมีแนวโน้มที่จะเติ
บโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้สิ
นค้าแฟชั่นและผลิตภัณฑ์ Made In Italy ในหมวดหมู่อื่นๆ ประสบความสำเร็จในระดั
บโลกมาจากคุณภาพสินค้า ความโดดเด่นด้านดีไซน์ที่เน้
นความเรียบง่าย แต่ให้ความสำคัญกับความคิดริเริ่
มสร้างสรรค์และหัตถศิลป์ที่
ประณีตพิถีพิถัน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสู
งที่สะท้อนถึงความคลาสสิ
กในแบบอิตาลีได้เป็นอย่างดี โดยประเทศอิตาลีมีการลงทุนด้
านเทคโนโลยีการผลิตสินค้
ามาโดยตลอด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุ
ดและสร้างความแปลกใหม่ให้แก่
ตลาดทั่วโลกอยู่เสมอ สินค้าที่ผลิตในอิตาลีจึงมี
เอกลักษณ์เฉพาะตัว
ด้าน
โอลิวิเยร์ บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่
ได้สานต่อความร่วมมือกับสำนั
กงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย ผ่านการจัดแคมเปญสุดพิเศษอย่าง
“Dolce Italia” ประจำปี 2023 เพื่อให้นักช้อปชาวไทยและต่
างชาติได้เต็มอิ่มกับการช้อปสิ
นค้าคุณภาพจากอิตาลีในแบบเอ็กซ์
คลูซีฟ กว่า 75 ปีที่ผ่านมา ห้างเซ็นทรัล มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ ช้อปที่ดีที่สุดและนำเสนอสินค้
าหลากหลายรูปแบบจากทั่วทุกมุ
มโลกเพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์
ของคนทุกเจเนอเรชัน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ เราได้ขนทัพสินค้าแบรนด์ดั
งและแบรนด์ใหม่มาแรงจากอิตาลีทั้
งในหมวดแฟชั่น บิวตี้ ของใช้และของตกแต่งบ้าน ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกันอย่
างจุใจโดยไม่ต้องบินไปไกล โดยการร่วมมือในครั้งนี้ ยังเป็นการตอกย้ำตำแหน่งของห้
างเซ็นทรัลในฐานะ No.1 Shopping Destination ที่มีสินค้าแบรนด์แฟชั่นจากทั่
วโลกโดยเฉพาะจากประเทศอิตาลีให้
เลือกสรรอย่างครบครันอีกด้วย โดยในปีที่ผ่านมายอดขายสินค้
าแบรนด์อิตาลีคิดเป็น 11% ของยอดขายสินค้านำเข้าทั้งหมด และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่
อเนื่อง
นอกจากนี้ เพื่อสร้างโมเมนต์แห่งความสุขที่
ครบครันและคุ้มค่าสำหรับลูกค้า
เราเนรมิตพื้นที่บริเวณ ชั้น 1 ของห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นมาร์เก็ตเพลสในสไตล์ Italian Garden ชวนลูกค้าอัปเดต เทรนด์แฟชั่น บิวตี้ และไลฟ์สไตล์จากอิตาลีกันอย่
างเพลิดเพลินแบบครบจบในที่เดียว พร้อมจัดเต็มโปรโมชันและกิ
จกรรมสนุกๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ตลอดทั้
งแคมเปญ ด้วย
สัญญาณการฟื้นตัวหลังวิกฤติโควิดที่เป็นไปในทิศทางบวก และการกลับมาของนักท่องเที่ยว ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศคึกคักมากขึ้น เราคาดว่างาน “Dolce Italia” ประจำปี 2023 นี้จะช่วยกระตุ้นมู้ดการช้อปในช่วงท้ายของไตรมาสแรกและบูสต์ยอดขายสินค้าเมดอินอิตาลีในทุกหมวดหมู่ได้เป็นอย่างดี”
ธาพิดา นรพัลลภ ประธานบริหาร ฝ่ายบริหารสินค้ากลุ่มแฟชั่น บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล เล่าถึงความพิเศษของแบรนด์สินค้
าจากอิตาลี ว่า “อิตาลีถือเป็นศูนย์กลางสำคั
ญของแฟชั่น ศิลปะวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ โดยคุณค่าเหล่านี้สะท้อนออกมาผ่
านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากอิตาลี จึงทำให้แบรนด์อิตาลีเป็นที่
ยอมรับจากทั่วโลกทั้งเรื่องดี
ไซน์และคุณภาพ ซึ่งห้างเซ็นทรัลถือเป็นจุดมุ่
งหมายของเหล่านักช้อปที่รวมเสื้
อผ้าเครื่องแต่งกายแบรนด์ดั
งจากอิตาลีไว้อย่างครบถ้วน เรามีแบรนด์คู่ค้าใหญ่ที่มาจากอิตาลี รวมถึงแบรนด์ที่ห้างเซ็นทรั
ลนำเข้าเอง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่นชื่อดั
ง อาทิ Emporio Armani, Moschino, Tod’s, Emilio Pucci, Max Mara, Furla, Diesel, Coccinelle, Sunnei, EA7 ฯลฯ รวมถึง แบรนด์บิวตี้ อาทิ Gucci, Kiko, Bvlgari, Versace, Prada และ Valentino”
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ใหม่ที่ห้างเซ็นทรัลนำเข้ามาวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในประเทศไทย อย่าง แบรนด์ “GCDS Kids” แบรนด์เสื้อผ้าเด็กที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของเด็กๆ อันบริสุทธิ์ สดใส สนุกสนาน และ ขี้เล่น ผ่านการผลิตบนมาตรฐานสูงสุดของอิตาลี, “SUÈI” แบรนด์รองเท้าสไตล์ Everyday Luxury ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่บ่งบอกถึงรายละเอียดการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ‘Only Unique Shoes are Irreplaceable’ ด้วยความพิถีพิถันในการเลือกเฟ้นวัสดุไม่ว่าจะเป็นหนัง หรือผ้าที่มีความเป็นมาในประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน ผสานเข้ากับศาสตร์แห่งงานฝีมือของชาวอิตาเลียน, “Lanzetti” แบรนด์เครื่องหนังเก่าแก่ที่ถ่ายทอดรสนิยมอันล้ำเลิศและรุ่มรวยของชาวอิตาเลียน กระเป๋าทุกใบผลิตขึ้นโดยช่างผู้เชี่ยวชาญแบบ 100% Made In Italy, “Laboratorio Mariucci” แบรนด์กระเป๋างานหนังอิตาเลียนคุณภาพสูงสุด ผ่านฝีมือของปรมาจารย์ด้านการตัดเย็บที่มีความเชี่ยวชาญทั้งงานสร้างสรรค์และนวัตกรรมล้ำสมัย และแบรนด์ “Beach Vibes” แบรนด์ Beachwear Accessories จากมิลาน ครบครันด้วยหลากหลายไอเทมสำหรับชีวิตติดทะเล เช่น กระเป๋า กิโมโนสวมคลุมชุดว่ายน้ำ ผ้าเช็ดตัว และแอคเซสเซอร์รีส์อื่นๆ ทุกไอเทมล้วนผลิตจากผ้าอัลตร้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงที่มีน้ำหนักเบา แห้งไว และพร้อมลุยไปกับคุณได้ทุกที่ และดีต่อสิ่งแวดล้อม และอีกหนึ่งไฮไลต์ในครั้งนี้ คือการนำเสนอสินค้าในหมวดหมู่ของใช้-ของตกแต่งบ้านส่งตรงจากอิตาลี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกช้อปสินค้าของแต่งบ้านหลากหลายแบรนด์อย่างครบครัน อาทิ Alessi, Ballarini, Bialetti, Delonghi, RCR ฯลฯ และภายในงานเรายังมีคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟ BIALETTI X DOLCE & GABBANA แฟชั่นแบรนด์สัญชาติอิตาเลียน ซึ่งจับมือร่วมกับแบรนด์หม้อชงกาแฟ Bialetti สร้างสรรค์หม้อกาแฟลวดลายพิเศษ โดยนำมาเปิดให้จองภายในงาน Central Dolce Italia ครั้งนี้ เพียง 60 ชิ้นเท่านั้น!
“การจัดงานครั้งนี้เป็นเสมื
อนเวทีสำคัญที่รวบรวมสินค้าอิ
ตาลีกว่า 50 แบรนด์ไว้ในที่เดียว ที่สำคัญคือสินค้าทุกชิ้น ทุกแบรนด์ เป็นสินค้า Made in Italy การันตีคุณภาพด้วยมาตรฐานการผลิ
ตและฝีมือแบบอิตาเลียนขนานแท้ ผ่านการคัดสรรมาให้ลูกค้าห้
างเซ็นทรัลได้เพลิดเพลินกั
บการช้อปปิ้งแบบเอ็กซ์คลูซีฟ อย่างสะดวกสบาย ดุจไปเดินช้อปปิ้งถึงถิ่นในอิ
ตาลีเลยทีเดียว เรามั่นใจว่าผู้ที่ชื่นชอบสินค้
าคุณภาพและดีไซน์อันเป็นเอกลั
กษณ์จะพบไอเทมที่ถู
กใจภายในงานนี้อย่างแน่นอน”
ธาพิดา กล่าวเสริม
ร่วมอัปเดตเทรนด์แฟชั่นและช้
อปสินค้าคุณภาพจากประเทศอิตาลี พร้อมพบกับโปรโมชันพิเศษและกิ
จกรรมมากมาย ได้ที่งาน
“Dolce Italia” ประจำปี 2023 ชั้น 1 ห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล ชิดลม ระหว่างวันที่ 8 มี.ค. – 30 เม.ย.2566 พร้อมช้อปสะดวกผ่านทุกช่
องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น CENTRAL APP, เว็บไซต์
www.central.co.th, ช้อปผ่านบริการ Central Chat & Shop บนแพลตฟอร์ม Line @centralofficial, Central Call & Shop โทร. 1425 ที่มาพร้อมบริการ Personal Shopper ผู้ช่วยช้อปส่วนตัว รวมถึงช้อปผ่าน Central Facebook Live และ Facebook Inbox ที่
facebook.com/CentralDepartmentStore