วันนี้ (14 ส.ค. 66) เวลา 15.00 น. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” ปี 2566 ภายใต้แนวคิด “ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพปวงประชาอย่างยั่งยืน” โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านผู้หญิงกอบกุล อุบลเดชประชารักษ์ ผู้ช่วยงานส่งเสริมศิลปาชีพ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายประวิช สุขุม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะทูตานุทูต คณะรัฐมนตรี คณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานภาคี ผู้ประกอบการ OTOP และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมงาน
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจัดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” ปี 2566 ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยได้ร่วมเทิดพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงเพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าชุมชนที่เป็นผลิตภัณฑ์จากชุมชนที่มีคุณค่า เป็นผลิตภัณฑ์จากฝีมือคนไทย
"หากย้อนกลับไปในปีพุทธศักราช 2513 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งในครั้งนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงทอดพระเนตรเห็นชาวบ้านมารับเสด็จโดยแต่งกายด้วยผ้าซิ่นที่มีลวดลายสีสวยงาม จึงทรงมีพระราชเสาวนีย์ที่จะส่งเสริมการทอผ้าไหมมัดหมี่ไว้เป็นอาชีพเสริมรายได้ให้กับครอบครัวพี่น้องประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้เอง พระองค์ท่านไม่ได้เพียงแต่พระราชทานพระราชดำริในเรื่องของศิลปาชีพด้านใดด้านหนึ่งอย่างเดียว พระองค์ท่านได้ทรงให้มีมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในพระองค์เกิดขึ้น
ซึ่งในปัจจุบันนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นองค์ประธานของมูลนิธินี้ โดยมูลนิธิฯ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผ้าหลาย ๆ ชนิด ทั้งผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ผ้าแพรวา ศิลปาชีพด้านอื่น ๆ เช่น เครื่องถมทอง ถมเงิน แม้กระทั่งในเรื่องของกระจูด ผ้าปักอันสวยงาม ซึ่งพระองค์ท่านทรงมุ่งมั่นในการอนุรักษ์และส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้รักษาไว้ และเป็นการหารายได้เพิ่มให้กับพี่น้องประชาชน และต่อมารัฐบาลได้น้อมนำพระราชเสาวนีย์ดังกล่าวมาขับเคลื่อน โดยมีคณะกรรมการอำนวยการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ หรือที่เราเรียกว่า OTOP เกิดขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับพี่น้องประชาชน จึงเป็นที่มาของความเชื่อมโยงระหว่างศิลปาชีพและ OTOP ที่เรารู้จักในชื่อ “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” ขึ้นเป็นประจำทุกปี เฉกเช่นครั้งนี้" พลเอก อนุพงษ์ฯ กล่าว
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้มีกิจกรรมที่หลากหลายที่สำคัญ คือ การเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีหลวง ในด้านการสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทย การจัดแสดงและจำหน่ายผ้าไทยและสินค้าศิลปาชีพ ซึ่งรัฐบาลหวังว่าจะเป็นโอกาสดีที่จะแสดงให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศเห็นความก้าวหน้าของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP และคาดหวังว่าการจัดงานครั้งนี้ จะสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ตลอดจนสมาชิกกลุ่มต่าง ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน และต้องขอขอบคุณคณะทูตานุทูต คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการอำนวยการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ หัวหน้าหน่วยราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ภาคเอกชน สื่อมวลชน และทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทสรรพกำลังในการจัดงานในครั้งนี้ให้มีความสำเร็จยิ่งใหญ่ และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกสาขาอาชีพได้มาร่วมอุดหนุนผู้ประกอบการในงานในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย 1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์ และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น 2. การจัดแสดงส่วนที่เป็นไฮไลต์ของงาน แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน “ศิลปิน OTOP” และโซน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” โดยแต่ละส่วน มีรายละเอียด ได้แก่ 1) โซน “ศิลปิน OTOP” เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลงานของศิลปิน OTOP จำนวน 50 ราย มีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น วิจิตรตระการตา แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ด้วยทักษะเชิงช่าง และเป็นงานศิลป์ชั้นยอดมาจัดแสดงและจำหน่าย เพื่อร่วมอนุรักษ์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ และ 2) โซน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เป็นการจัดแสดงนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผ้าไทย เพื่อร่วมเชิดชูคุณค่าผ้าไทย อันเป็นหนึ่งในงานหัตถศิลป์ล้ำค่า ที่สามารถสร้างรายได้สู่ชุมชน พร้อมหนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต ประกอบด้วย โซนนิทรรศการผ้าไทย โซน First Lady โซนผลิตภัณฑ์ผ้าไทยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลาดกลางเส้นไหมและเส้นใยธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย หมู่บ้านคนรักษ์ช้าง ประชารัฐจังหวัด กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โซน Health & SPA ผลิตภัณฑ์ OTOP 5 ประเภท อาทิ OTOP : KBO / OTOP Brand name/ OTOP Premium / OTOP Trader และ OTOP ชวนชิม รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน อย่าลืมมาชม ชิม ช้อป กันได้ถึง 20 สิงหาคม นี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 -3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ส่วนใครที่อยู่ไกล ไม่สะดวกมาที่งาน ปีนี้มีให้ไปเลือกช้อปออนไลน์ ที่ Shopee / OTOP ศิลปาชีพ ประทีปไทย ได้ มีสินค้าคุณภาพหลากหลายให้เข้าไปเลือกดูเลือกซื้อกันได้เช่นกัน ขอฝากช่วยกันอุดหนุนสินค้าของคนไทย เพื่อช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนด้วยนะครับ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวในช่วงท้าย