วันนี้ (20 มิ.ย. 65) เวลา 16.30 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีปิดกิจกรรม Pride Together, Pride Talk และมอบรางวัลชนะการประกวด Miss International Queen 2022 รอบความสามารถพิเศษ โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวง พม. พร้อมด้วยผู้แทนภาคีเครือข่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เข้าร่วมงาน ณ ชั้น G บริเวณลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
นายจุติ กล่าวว่า รัฐบาลไทย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ให้ความสำคัญกับการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามหลักสากลด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการเคารพในความแตกต่างหลากหลาย และพร้อมส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งมีความมุ่งมั่นที่จะให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ส่งเสริมโอกาสอย่างเท่าเทียมสำหรับบุคคลทุกเพศ ให้สามารถเข้าถึงสิทธิอย่างครอบคลุมทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง โดยมีพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ ซึ่งประกาศใช้เมื่อปี 2558 เป็นกลไกสำคัญในการประสานความร่วมมือกับภาคคีเครือข่ายทุกภาคส่วนเพื่อคุ้มครองผู้ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ และป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า กระทรวง พม. ได้มอบหมายให้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศในทุกระดับ ซึ่งวันนี้ การจัดกิจกรรม Pride Together, Pride Talk ถือเป็นโอกาสสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือกันเพื่อสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศผ่านการถ่ายทอดแนวคิด มุมมองของผู้มีชื่อเสียงในการเคารพในคุณค่าของตนเอง รวมทั้งวิสัยทัศน์ของผู้บริหารองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้สังคมตระหนักเรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศ
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมนี้ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ของสังคม อยากให้คนไทยยอมรับและปรับไปตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่เน้นเรื่องความสุข สิทธิเสรีภาพ และอยากจะบอกว่าประเทศไทยให้สิทธิเสรีภาพ เป็นสถานที่เปิดรับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะมาจากประเทศอะไรก็ตาม ทุกคนจะมีความสุข และสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับสังคมไทยและโลก
ทั้งนี้ กระทรวง พม. เป็นตัวแทนของรัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และภาคเอกชน ร่วมมือกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย จะเห็นได้ว่าประเทศไทยจริงจังกับการเปลี่ยนแปลง ทำอะไรก็ได้ที่ให้คนมีความสุข และอยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมผู้เข้าประกวดทุกท่านที่ได้แสดงความสามารถของตนเอง ซึ่งตนเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีคุณค่า มีศักยภาพ และควรได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งถือเป็นพลังสำคัญในการสร้างสังคมที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืนต่อไป