วันนี้ (27 ก.ค.65) ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริก เป็นประธานในพิธี “วันรำลึก 44 ปี ดร.เกริก” ประจำปี 2565 และเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี มหาวิทยาลัยเกริก พร้อมกับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณศิษย์เก่าดีเด่น และมอบทุนการศึกษาให้นักศึกษา โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ ดร.เกริก มหาวิทยาลัยเกริก

ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเกริกแห่งนี้ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นให้เป็นสถาบันการศึกษาที่มีการเรียนการสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้อุดมการณ์ “การศึกษาทำให้คนองอาจ” ด้วยการสร้างลูกศิษย์ให้เป็นคนเก่ง เป็นคนดี และมีภาวะผู้นำ ซึ่งตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเกริก ได้ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกสู่สังคมจำนวนมาก และเป็นผู้มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในแวดวงต่างๆ อาทิ นักการเมือง อาจารย์ ทหาร นักธุรกิจ ศิลปิน นักแสดง เป็นต้น 

และเนื่องในโอกาสก้าวย่างสู่ปีที่ 71 มหาวิทยาลัยเกริก ตั้งเป้าสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำของประเทศ เป็นสถาบันการศึกษาที่สร้างคนเพื่อออกไปช่วยพัฒนาประเทศชาติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาการเรียนการสอนให้ทันสมัย ทันเหตุการณ์ พัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ทั้งหลักสูตรภาษาไทยและหลักสูตรของวิทยาลัยนานาชาติ โดยเฉพาะหลักสูตรเสริม 3 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร Thai China ASEAN หลักสูตรการจัดการความปลอดภัย และหลักสูตรพัฒนาภาวะผู้นำ ซึ่งทั้ง 3 หลักสูตรนี้มีความจำเป็นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพและดำเนินชีวิตหลังจบการศึกษาได้เป็นอย่างดี เนื่องจากแค่การศึกษาหาความรู้ในตำราอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องรอบรู้และเท่าทันโลก มหาวิทยาลัยเกริกจึงไม่หยุดที่จะพัฒนาสถาบันและบุคลากร เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ เป็นคนเก่งมีความรอบรู้ เป็นคนดีมีคุณธรรม และมีภาวะผู้นำ ที่มีความองอาจสง่างาม มีความมั่นใจในตนเอง ทุ่มเทกับหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย ที่สำคัญคือให้เกียรติและเห็นความสำคัญของคนอื่นซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในสังคมปัจจุบัน  

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเกริก ยังมีแนวคิดปรับหลักสูตรการเรียนการสอนบางสาขาวิชาจากระยะ 4 ปี ให้เป็นหลักสูตรระยะสั้นเพื่อให้นักศึกษาได้จบการศึกษาเร็วขึ้นจะได้นำความรู้ไปประกอบอาชีพที่ต้องการได้เร็วขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับจัดทำหลักสูตรสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติมสำหรับนำไปสร้างอาชีพและรายได้ เพื่อรองรับกับสังคมผู้สูงวัยที่มีคุณภาพไม่เป็นภาระลูกหลาน รวมถึงการขยายผลการเรียนการสอนสู่ชนบท โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกมหาวิทยาลัยไปอยู่ใกล้บ้าน (Home University) ไม่ต้องเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาขั้นอุดมศึกษาของเยาวชนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทให้มากขึ้นด้วย 

ด้าน ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี ศิษย์เก่าดีเด่นมหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า ผมจบคณะนิเทศศาสตร์เป็นรุ่นแรกของมหาวิทยาลัยเกริก ที่นี่เราเรียนแบบเหมือนครอบครัวมีความรักความผูกพันกันทั้งศิษย์และอาจารย์ ตอนเรียนก็ได้เป็นนายกสโมสรมหาวิทยาลัย ทำกิจกรรมจนได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยเอกชนทั่วประเทศ การเรียนที่นี่สิ่งหนึ่งที่ได้ติดตัวตลอดในการดำเนินชีวิตคือความรู้ทำให้องอาจ ทำให้ได้เรียนรู้และเติบโตในเส้นทางการเมือง คิดว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จในวันนี้ก็ได้จากการเรียนที่แห่งนี้ และในโอกาสครบรอบ 70 ปี มหาวิทยาลัยเกริก ผมก็ขอให้มหาวิทยาลัยเกริกเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป และขอขอบคุณที่มอบรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นให้กับผมซึ่งเป็นรางวัลสำคัญและมีค่ามาก

ด้านนายมาริโอ้ เมาเร่อ ศิลปินนักแสดงในฐานะตัวแทนศิษย์เก่าดีเด่น มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า ผมจบคณะรัฐศาสตร์ สื่อสารการเมือง ที่มหาวิทยาลัยเกริก ปี 2559 ที่เลือกเรียนที่นี่เพราะสะดวกใกล้บ้านและมีญาติที่ศึกษาที่นี่แนะนำ ก็เลยเลือกมาเรียนที่นี่เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่น ได้สนิทกับเพื่อนนักศึกษาและอาจารย์ ได้ความรู้เยอะมาก ได้ศึกษาและทำรายงานได้พรีเซนต์งานเหมือนจริง ทำให้เรามีประสบการณ์ นำไปปรับใช้ในการแสดงทำให้มีความมั่นใจ และในโอกาสครบรอบ 70 ปี มหาวิทยาลัยเกริก โอ้ขอแสดงความยินดีกับคณะอาจารย์และนักศึกษา สำหรับใครอยากมาเรียนขอแนะนำให้มาเรียนที่นี่เลย