วันนี้ (24 ก.ค. 66) เวลา 10.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) รับฟังการนำเสนอมติสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ประจําปี 2566 โดย สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย พร้อมให้ข้อคิดเห็น ในการประชุมเชิงปฏิบัติการสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ประจําปี 2566 โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ร่วมรับฟัง และ Miss Severine Leonardi ผู้แทนองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ประเทศไทย ร่วมให้ข้อคิดเห็นณ โรงแรม เดอะ บาซาร์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร
นายจุติ กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2566 จัดขึ้นโดยกระทรวง พม. ซึ่งกรมกิจการเด็ก
และเยาวชน (ดย.) ,สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ประเทศไทย ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเป็นเวทีให้กับเด็กและเยาวชนในการเสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำ การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทางสังคมในมิติด้านต่างๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ตลอดจนการติดตามผลการดำเนินงานและการขับเคลื่อนกิจกรรมตามมติสมัชชาเด็กและเยาวชนในระดับพื้นที่ รวมทั้งจะนำมติจากสมัชชาซึ่งข้อเสนอเชิงนโยบายสู่การปฏิบัติไปยังผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 โดยการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนพัฒนาสังคมตนต้องการให้น้องๆเด็กและเยาวชน เข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ ในระดับพื้นที่ ผ่านศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล เพื่อเคลื่อนงานพัฒนาสังคม อันจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแท้จริง
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2566 มีการระดมความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน ผ่านกระบวนการสมัชชา เกี่ยวกับปัญหาสถานการณ์ด้านเด็กและเยาวชนใน 6 ประเด็นสำคัญ ซึ่งมีการนำเสนอมติ โดยผู้แทนเด็กและเยาวชน ดังนี้ 1) ประเด็นการศึกษา ต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติและการเข้าถึงการศึกษาแก่เด็กนอกระบบ 2) ประเด็นเศรษฐกิจ ต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาองค์ความรู้การตลาดแรงงานสำหรับเด็กและเยาวชน และส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ 3) ประเด็นสุขภาพ โดยให้ภาครัฐควบคุมสารเสพติดที่ระบาดในเด็กและเยาวชน และยกระดับศูนย์บริการสุขภาพจิตที่เป็นมิตรแก่เด็กและเยาวชน 4) ประเด็นความรุนแรง ให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการในการแก้ปัญหาความรุนแรง และการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและเยาวชน ทั้งในสังคมออฟไลน์และสังคมออนไลน์ รวมถึงการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ และปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม 5) ประเด็นสิ่งแวดล้อม ต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และการออกมาตรการทางภาษีในการส่งเสริมการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และ 6) ประเด็นการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน โดยต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มโอกาสการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในการกำหนดนโยบาย และการนำส่งรายงาน CRC ต่อคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ ต้องขอบคุณยูนิเซฟ ประเทศไทย ที่สนับสนุนการจัดเวทีรับฟังครั้งนี้ โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติ จากเด็กคิด เด็กทำ ผู้ใหญ่หนุน ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้ใหญ่ร่วมทำด้วย เพื่อช่วยกันพัฒนาประเทศ ดังนั้น การนำเสนอมติสมัชชาเด็กและเยาวชนฯ ทั้ง 6 ด้าน เป็นมุมมองจากคนรุ่นใหม่ โดยรัฐบาลพร้อมรับฟัง อีกทั้งยูนิเซฟ ประเทศไทย อยากให้เด็กและเยาวชนมีการพัฒนาศักยภาพของตนเอง โดยกระทรวง พม. จะเชิญผู้ร่วมนำเสนอมติ มาร่วมทำงานกับเรา เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย หลังจากนี้ เชื่อว่าจะมีการทำงานในมิติที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นร่วมกับตัวแทนสภาเด็กและเยาวชนฯ
#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม