ปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว อีกหนึ่งมูลนิธิเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมวงการเพลงไทย ในชื่อว่า “มูลนิธิ เลิฟ อิส มิวสิค (LOVEiS Music Foundation)” จากปณิธานและการก่อตั้งโดย “คุณเทพอาจ กวินอนันต์” ผู้ที่เป็นบุคคลสำคัญในแวดวงดนตรีทั้งในบทบาทของผู้บริหารสูงสุดค่ายเพลง LOVEiS Entertainment และในบทบาทของศิลปิน JEEP TK ร่วมด้วย ผู้ที่มุ่งหวังจะทำให้ดนตรีเข้าถึงเยาวชนทุกคน และทำให้ทุกคนเข้าถึงดนตรี ผ่านการให้โอกาส หรือ การสร้างโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับดนตรี และมีประสบการณ์การเล่นเครื่องดนตรีหลากหลายประเภท
ในงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้น ได้รับเกียรติจากกรรมการของมูลนิธิร่วมเป็นเกียรติในงานได้แก่ คุณณพฤดี จันทราทิพย์ รองประธานกรรมการ คุณพิรียา ถีระวัฒนาสวัสดิ์ กรรมการ เหรัญญิก และเลขานุการ ร่วมด้วยศิลปินชื่อดังได้แก่ NONT TANONT, TINN, PROO Thunwa, HYBS
คุณเทพอาจ กวินอนันต์ เผยว่า “ผมได้คลุกคลีกับแวดวงดนตรีทั้งในฐานะของผู้บริหารค่ายเพลง และในฐานะของศิลปินที่ชื่นชอบดนตรี การศึกษาดนตรีในประเทศไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีจำนวนนักเรียนที่สนใจเรียนดนตรีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากงานวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของดนตรี รวมถึงการที่ผู้ปกครองมีทัศนคติเชิงบวกและเชื่อว่า กิจกรรมดนตรีสามารถพัฒนาสติปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ยังคงมีอุปสรรคที่สำคัญของการศึกษาดนตรีในประเทศไทย คือ ข้อจำกัดด้านงบประมาณ ทำให้การเรียนดนตรียังคงอยู่ในวงจำกัด ดังนั้น การทำให้เด็กทุกคนเข้าถึงดนตรี จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ที่จะช่วยพัฒนาสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง มูลนิธิ เลิฟ อิส มิวสิค”
“มูลนิธิ เลิฟ อิส มิวสิค มี 3 วัตถุประสงค์หลักด้วยกัน ได้แก่ 1. เพื่อส่งเสริมการศึกษาดนตรีแก่เด็ก เยาวชน และบุคคลทั่วไป ให้ได้เข้าถึงการศึกษาและพัฒนาทักษะการเล่นเครื่องดนตรี 2. เพื่อเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับดนตรี และสนับสนุนอุตสาหกรรมดนตรีให้พัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน 3. เพื่อประสานงานหรือให้ความร่วมมือกับองค์กรการกุศล เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมด้านดนตรี”
“ภายใต้พันธกิจ คือ จะทำให้ข้อจำกัดทางการเงินไม่เป็นอุปสรรค สำหรับเด็กที่สนใจเรียนดนตรี ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก คือ ทุนการศึกษา คลาสสอนดนตรี และการบริจาคเครื่องดนตรีให้แก่โรงเรียนต่างๆ เหล่านี้คือจุดเริ่มต้นที่จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมนี้มีบุคลากรที่มีคุณภาพ เพราะน้องๆกลุ่มนี้จะเป็นรากฐานให้แก่เยาวชนรุ่นต่อไป ให้มีความรักในศิลปะนี้ เป็นการสร้างงานพร้อมยกระดับอาชีพ สร้างอุตสาหกรรมดนตรีให้เป็น “ซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power)” พร้อมทั้งขยายอิทธิพลและการเปลี่ยนแปลงความคิด สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศต่อไปได้อีกในอนาคต” คุณเทพอาจ กวินอนันต์ กล่าวปิดท้าย
เบื้องต้น “มูลนิธิ เลิฟ อิส มิวสิค” ได้ร่วมมือกับ 2 สถาบันการศึกษา คือ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในการสนับสนุนทุนการศึกษาปีละ 22 ทุน เพื่อช่วยให้เยาวชนคนดนตรีได้สานต่อความฝันในการเรียนดนตรีในสถาบันชั้นนำของประเทศ
ต่อเนื่องด้วยการได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน คือ “THEERA MUSIC” ในการจัดหาเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ เพื่อมอบให้แก่โรงเรียนที่มีศักยภาพ แต่ขาดแคลนงบประมาณ นำร่องมอบแล้ว ณ “โรงเรียนวัดล่าง (บวรวิทยายน ๓)” เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 66 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ “มูลนิธิ เลิฟ อิส มิวสิค” จะเปิดคลาสสอนทักษะการเล่นดนตรีประเภทต่างๆ ทั้ง กีตาร์ เบส คีย์บอร์ด กลอง และ ร้องเพลง ซึ่งเป็นกิจกรรมเสริมทักษะให้แก่นักเรียน (After school activity) เพื่อให้โอกาสเด็กและเยาวชนได้มีประสบการณ์ทางดนตรี ผ่านการเรียนดนตรีกับครูผู้ชำนาญและศิลปินคนดังที่คร่ำหวอดในวงการดนตรี ที่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการเล่นดนตรีให้แก่เด็กๆ ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนเรียนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ NONT TANONT ศิลปินชื่อดังสังกัด LOVEiS Entertainment ผู้แทนร่วมงานและร่วมพูดคุยบนเวที เสริมว่า “การที่ได้เรียนในสถาบันสอนดนตรีโดยเฉพาะ มันมีข้อดีมากๆ ในการฝึกทักษะทางด้านดนตรีของเรา ถึงแม้เราจะร้องเพลง เล่นดนตรีได้จากการฝึกเองที่บ้าน แต่เมื่อเราได้มาเรียนแบบจริงๆจังๆ มันช่วยปลดล็อกส่งเสริมสิ่งที่เราไม่รู้ ให้เราได้เข้าใจ เช่น ตัวโน๊ตต่างๆ วิธีการใช้มันให้ถูกวิธี ซึ่งพอมีผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์มาแนะนำ มันทำให้เราได้เข้าถึงดนตรีมากขึ้น เข้าใจมันมากขึ้น มันทำให้เราต่อยอดไปพัฒนาการผลิตผลงานของเราได้ในอนาคต
มูลนิธิ LOVEiS Music Foundation ผมมองว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่น้องๆจะได้รับโอกาสในการพัฒนาฝีมือทางด้านดนตรี เพราะมูลนิธิเราให้ทั้งเครื่องดนตรี จัดคลาสสอนดนตรี รวมถึงทุนการศึกษาให้น้องๆได้เล่าเรียนกัน สมัยก่อนโอกาสแบบนี้ไม่ค่อยมีกันเยอะ ทุกอย่างต้องใช้ทุนทรัพย์ผมจึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่น้องๆจะได้พัฒนาตนเองและสามารถสร้างอาชีพในสิ่งที่เรารัก และเราจะมีความสุขในการได้ทำมันในทุกๆวัน”
เรียกว่า “มูลนิธิ เลิฟ อิส มิวสิค” เป็นพลังเล็กๆ สู่การสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ เปิดโลกแห่งการเรียนรู้เพื่อจุดเริ่มต้นของการใช้เวลาอย่างสร้างสรรค์ เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตและนำไปต่อยอดในการพัฒนาทักษะชีวิตอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลนิธิ เลิฟ อิส มิวสิค
ได้ที่ Line OA: @Loveisfoundation