วันนี้ (24 เม.ย. 65) เวลา 10.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ลงพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์

เพื่อเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลเด่นเหล็ก อำเภอน้ำปาด นับเป็นศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลแห่งแรกของจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมทั้งมอบความช่วยเหลือต่างๆ ตามภารกิจกระทรวง พม. อาทิ เงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหากรณีฉุกเฉิน จำนวน 33 ครอบครัว เงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ จำนวน 10 ครอบครัว และนมผงสำหรับเด็ก จำนวน 20 ครอบครัว โดยมีนายพยงค์ ยาเภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุตรดิตถ์ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ เข้าร่วมงานดังกล่าว

 

นายจุติ กล่าวว่า อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่ที่มีความยากลำบากเพราะตั้งอยู่บนภูเขา ชาวบ้านทำการการเพาะปลูกกระเทียมและหอมแดง เราต้องทำให้พื้นที่นี้มีมูลค่าและผลิตสินค้าแปรรูปให้ได้ เพื่อจะได้มีความคุ้มค่ากับที่พี่น้องประชาชนได้ประกอบอาชีพ และมีส่วนหนึ่งไปประกอบอาชีพรับจ้างที่อื่น เพราะพื้นที่นี้ไม่มีโรงงาน แต่ในที่สุดแล้วเมื่อความเจริญเข้ามาถึง เราต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งทางสังคมและทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลแห่งนี้จะเป็นศูนย์ที่ช่วยเหลือประชาชนที่มีความยากลำบาก มีปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยจะช่วยให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการบริการของศูนย์แห่งนี้ได้ ซึ่งตนเดินทางมาลงพื้นที่นี้ เพราะต้องการทำตามนโยบายของรัฐบาล คือเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องการให้พี่น้องประชาชนลดความกลัวและสามารถเข้าใช้ประโยชน์จากศูนย์แห่งนี้ เมื่อท่านมีปัญหาได้

 

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมีนโยบายแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า โดยในปีนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายว่าอยากให้ดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือนและความยากจนของประชาชน รวมไปถึงเรื่องการศึกษา เพราะเรามีเด็กนักเรียนอีกหลายแสนครอบครัวที่ลูกหลานไม่ได้เรียนหนังสือ เราต้องผลักดันให้เด็กเหล่านั้นกลับไปเรียนหนังสือให้ได้ ขณะนี้รัฐบาลมีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเพื่อให้กู้ยืมเงิน โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน

สำหรับเด็กที่ไม่มีเงินเรียน สามารถไปขอเงินสนับสนุนได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ว่า ถ้าใครอยากเรียน แต่ไม่ได้เรียน เพราะไม่มีเงิน รัฐบาลจะช่วยให้ได้เรียนหนังสือ เพราะรัฐบาลอยากให้เด็กทุกคนมีโอกาส มีอนาคต และสามารถดูแลตัวเองได้

 

 

วันนี้ (22 เม.ย. 65) เวลา 11.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1 อำเภอ 1 วัด 1 ศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล พร้อมมอบป้ายศูนย์ช่วยเหลือสังคมวัด 25 ศูนย์ ณ วัดธาตุพระอารามหลวง ริมบึงแก่นนคร อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
อีกทั้งได้มอบความช่วยเหลือต่างๆ ตามภารกิจกระทรวง พม. ได้แก่ 1) เงินช่วยเหลือครอบครัวภาวะวิกฤต จำนวน 30 ครอบครัว 2) เงินจากโครงการปรับสภาพสิ่งแวดล้อมให้กับผู้สูงอายุ จำนวน 4 ครอบครัว และคนพิการ จำนวน 5 ครอบครัว 3) เงินค่าตอบแทนผู้ช่วยดูแลคนพิการ จำนวน 36 คน 4) เงินค่าตอบแทนอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) อำเภอเมืองขอนแก่น จำนวน 12 คน และ 5) ชุดของขวัญให้กับตัวแทนผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันปีใหม่ไทย 2565 จำนวน 5 ชุด นอกจากนี้ ได้มอบเกียรติบัตร อพม. ที่ปฏิบัติหน้าที่ยอดเยี่ยม จำนวน 26 คน และเกียรติบัตรแก่ผู้เสียสละเพื่อสังคม จำนวน 6 คน รวมทั้งเปิดตัว "อพม. พารวย" มอบรถพ่วงข้างไฟฟ้าให้กลุ่มเปราะบาง มีอาชีพ มีรายได้ จำนวน 10 คัน / 10 คน
 
นายจุติ กล่าวว่า วันนี้ ตนพร้อมทีมผู้บริหารกระทรวง พม. ได้เดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อมาเยี่ยมเยียนและเปิดศูนย์ช่วยเหลือสังคม สำหรับดูแลพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ประสบปัญหาทางสังคม รวมถึงการแก้ไขเยียวยาตามนโยบายของรัฐบาล โดยต้องการให้ประชาชนได้มีที่พึ่งจากศูนย์ช่วยเหลือสังคมประจำตำบลทุกตำบล ซึ่งรัฐบาลโดยการนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี ได้บูรณาการการทำงานทั้ง 20 กระทรวง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้รวดเร็วทันใจและแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า โดยเราจะแก้ปัญหาความยากจนข้ามรุ่น ซึ่งต้องแก้ไขด้วยการให้โอกาส ให้ความรู้ทักษะทางการศึกษาทางอาชีพ และการเข้าถึงเงินทุน เพื่อให้ประชาชนสามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครัวต่อไปได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาล ทั้งนี้ เราได้เน้นย้ำกับประชาชนเสมอว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จึงเป็นที่มาของศูนย์ช่วยเหลือสังคมประจำตำบล
 
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ เราได้เปิดศูนย์ฯ ทั่วประเทศไปแล้วเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะทำให้ประชาชนเข้มแข็ง โดยมีวัดที่เป็นสถานที่ตั้งและช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จจุดเดียว โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องการคือให้ประชาชนอยู่รอดปลอดภัย ให้ทุกท่านอยู่ได้อย่างพอเพียง และมีอาชีพที่ยั่งยืน ซึ่งสิ่งที่ประชาชนต้องเผชิญจะไม่ได้เผชิญเพียงคนเดียว แต่รัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เริ่มต้นจากศูนย์ฯ ที่เรามาทำในวันนี้ และเรายังมีองค์กรบริหารส่วนตำบลรวมถึงเทศบาลทุกแห่งที่มีสถานที่ที่ดูแลพี่น้องประชาชนด้วยเช่นกัน
 
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ได้เดินทางไปยังศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเยี่ยมชมโครงการอบรมดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง Caregiver ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาอบรมให้ทักษะความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) และผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) เพื่อให้ผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงสามารถข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน โดยได้รับการดูแลที่ดี ความคุ้มครองให้ปลอดภัย และมีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ อันนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวต่อไป

(20 เม.ย.2565) นางจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้แถลงข่าวว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ ได้ให้นโยบายในการให้ความคุ้มครองผู้เป็นเหยื่อของการถูกคุกคามทางเพศมาโดยตลอด ทางกระทรวง พม. ได้ดำเนินการคุ้มครอง พิทักษ์สิทธิ และให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยเฉพาะการเยียวยาทางจิตใจของผู้เสียหาย รวมทั้งระบบส่งต่อที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยทีมสหวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ ทางสายด่วน 1300 ศูนย์ช่วยเหลือสังคมของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แอพพลิเคชั่น Line : @linefamily เว็บไซต์ระบบเพื่อนครอบครัว www.เพื่อนครอบครัว.com ของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว รวมทั้ง Facebook : Jintana Chanbamrung ของนางจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ตลอด 24 ชั่วโมง

 

อธิบดี จินตนา กล่าวว่าขอให้สังคมตระหนักว่าการคุกคามทางเพศและการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้หญิง 

และขอให้สังคมยุติวัฒนธรรมการกล่าวโทษผู้เสียหาย โดยการยุติการกล่าวโทษต่อผู้เสียหายว่ามีส่วนในการทำให้เกิดเหตุการณ์นั้น ๆ ขึ้น เช่น การยั่วยุให้ใช้ความรุนแรงทางเพศโดยการแต่งตัวของผู้ถูกกระทำ เป็นต้น

 

กระทรวง พม. พร้อมส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาคระหว่างเพศ และพิทักษ์สิทธิสตรี สร้างองค์ความรู้ต่อสาธารณชน และ ขอความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันยุติการกระทำความรุนแรงทางเพศในทุกรูปแบบ

 

วันที่ 21 เมษายน 2565 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายอนุกูล ปีดแก้ว อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ชี้แจงกรณีหนุ่มวัย 23 คลั่งกลางห้างดัง เอามีด คัตเตอร์กรีดสาว บาดเจ็บ 2 ราย เหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 บริเวณชั้น 2 ของห้างดังกล่าว
 
นายอนุกูล กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาย อายุ 23 ปี ไม่ได้รู้จักกับผู้บาดเจ็บทั้งสองราย จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่าเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด ภายหลังทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวจังหวัดลพบุรี เคยประกอบอาชีพเป็นช่างไฟฟ้า ปัจจุบันว่างงาน ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร
 
ได้ตรวจสอบรายชื่อจากทะเบียนคนไร้บ้านเบื้องต้นแล้ว ไม่พบข้อมูล จากการสอบถามข้อเท็จจริงมารดาของผู้ก่อเหตุ พบว่า บิดามารดาแยกทางกันตั้งแต่ผู้ก่อเหตุอยู่ในวัยเด็ก และอาศัยอยู่กับมารดาจนจบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และไม่ได้ศึกษาต่อ จากนั้นย้ายไปอาศัยอยู่กับบิดา มารดาให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุ
มีพฤติกรรมผิดปกติ คล้ายมีอาการจิตเวช และเริ่มมีอาการหนักขึ้นเมื่อช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยได้รับการตรวจรักษา อีกทั้งมีพฤติกรรมดื่มสุราและใช้สารเสพติด ซึ่งผู้ก่อเหตุเคยมีภรรยา และบุตร 1 คน ปัจจุบันแยกทางกันแล้ว ขณะนี้ผู้ก่อเหตุเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย
 
ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมามีคนไร้ที่พึ่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจทางกรมฯ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะตามพระราชบัญญัติ
การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2557 มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไร้ที่พึ่งได้เข้าถึงบริการและสวัสดิการขั้นพื้นฐานทั้งในด้านที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล การจัดหางาน และการประสานส่งต่อ
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นคนไร้ที่พึ่ง โปรดแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
 
 
 
 
 

 

 

 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมากต่อเนื่อง ธนาคารไทยพาณิชย์ ภายใต้โครงการ “ไทยพาณิชย์รวมใจสู้ภัยโควิด 19” ตระหนักดีถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของต่าง ๆ สำหรับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เพื่อรองรับและช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในการบรรเทาวิกฤติโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ร่วมบริจาคเงินสมทบ “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่าง ๆ)” โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา รับมอบเงินจาก คุณอารยา ภู่พานิช รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 3,000,000 บาท เพื่อนำไปจัดสร้างห้องระบบแลกเปลี่ยนอากาศแรงดันลบแบบสมบูรณ์ (True Negative Pressure) และการพัฒนาห้องผู้ป่วยปกติเป็นห้อง Semi ICU ให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ณ มูลนิธิชัยพัฒนา
ระบบแลกเปลี่ยนอากาศแรงดันลบแบบสมบูรณ์ มีความจำเป็นต่อผู้ป่วยโควิด 19 โดยจะนำ “อากาศสะอาด” หรือที่เรียกว่า “Fresh Air 100 %” เติมเข้าสู่ห้องผู้ป่วยตลอดเวลา อากาศในห้องผู้ป่วยที่มีเชื้อโรคจะถูกดูดออกจากห้องอย่างรวดเร็ว และไม่นำอากาศเดิมภายในห้องกลับมาใช้ซ้ำ มีแผ่นฟิลเตอร์สามารถกรองอากาศได้ละเอียดที่ 0.1 ไมครอน ขณะที่เชื้อไวรัสโควิดมีขนาดเฉลี่ย 0.125 ไมครอน อีกทั้งยังสามารถควบคุมความชื้นสัมพัทธ์เพื่อป้องกันเชื้อราและเชื้อโรคอื่น ๆ ไม่ให้เจริญเติบโตในห้องผู้ป่วย และลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียภายในห้องผู้ป่วยได้ 98.3% ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย
เนื้อหาที่เปิดอ่าน
2444911

ค้นหา

Taik Today
Happy senson
มอเตอร์โชว์ 2024
กรมกิจการเด็กและเยาวชน

295466102 429534495856847 6257938790570699089 n

Indrajitu Slot Indrajitu Slot Gacor indrajitu sateslot ayambet slot gacor hari ini acong88 ayambet sate slot indrajitu megaforwin nasgorbet Ayambet Indrajitu Megaforwin Nasgorbet Sateslot https://103.123.158.92/vvip/ Ayambet Indrajitu Megaforwin Sateslot Bimatoto Plnslot Buditogel Nasgorbet Acong88 Ayambet Indrajitu Megaforwin Nasgorbet Plnslot Sateslot Ayambet Indrajitu Megaforwin Nasgorbet Sateslot gacor slot terpercaya sibela Indrajitu Indrajitu