คุณดวงฤทัย โชติบูรณ์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท MS Group เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จนถึงสงครามรัสเซียและยูเครนจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แต่การดูแลสุขภาพด้านความงามของประชาชนก็ยังเป็นที่ต้องการของผู้คนทั่วโลก ดังนั้น MS Group ในฐานะที่ดำเนินธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ การผลิตและจำหน่ายสินค้าด้านความงาม มีคู่ค้าและลูกค้าอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลกถึง 45 ประเทศ ขอประกาศความพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกๆด้าน ผ่านบริษัทในเครือทั้ง 6 บริษัท คือ
1.บริษัท M.S.Union Enterprise ให้บริการในการจัดหา และนำเข้าบรรจุภัณฑ์ ที่ใช้กับเครื่องสำอาง และเครื่องสำอางสำเร็จรูปจากต่างประเทศ โดยรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์ของลูกค้า รวมทั้งควบคุมระยะเวลาและคุณภาพให้เป็นไปตามที่ตกลงไว้
2. บริษัท M.S.Beautyline จำหน่ายสินค้าเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ YC ผ่านช่องทางการส่งออก โดยมีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ YC มากกว่า 35 ประเทศ และยังรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์ของลูกค้าในต่างประเทศอีกมากกว่า 10 ประเทศ
3. บริษัท M.S.First Enterprise โรงงานผลิตเครื่องสำอางสกินแคร์ ตั้งอยู่ที่ลำลูกกา คลอง 9 จ.ปทุมธานี บนเนื้อที่กว่า 12 ไร่ เป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานGMP, ISO9001 และ ISO22716 โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจากทางยุโรป บริษัทมีทีมR&D ที่จะพัฒนาสินค้าไปจนถึงทีมงานที่ดูแลการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้า
4. บริษัท CK Dispenser โรงงานผลิตหัวปั้มและบรรจุภัณฑ์พลาสติก ตั้งอยู่ที่ลำลูกกา คลอง 8 จ.ปทุมธานี เป็นโรงงานที่ได้มาตรฐาน ISO9001 และ BRC Packaging โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท MS Group และบริษัท Sun & L ประเทศเกาหลี เพื่อสนับสนุนและถ่ายทอดความรู้ด้านวิศวกรรมและการผลิต
5. บริษัท Innova Kosmetik Indonesia โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ Extica จำหน่ายทั่วประเทศอินโดนีเซีย โดยทำการตลาด และขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด และร้านขายส่งและปลีกในประเทศ
6. บริษัท Colorqueen เป็นบริษัทใหม่ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดยพึ่งก่อสร้างโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรเสร็จในปีที่ผ่านมา โรงงานนี้เป็นการร่วมทุนกับบริษัทไต้หวัน และสิงคโปร์ เพื่อผลิตเครื่องสำอางประเภทเมคอัพ ตั้งอยู่ที่บางพลีน้อย จ.สมุทรปราการ ภายในโรงงานควบคุมการผลิตในระบบคลีนรูมทั้งหมด
คุณดวงฤทัย เปิดเผยด้วยว่า ปัจจุบันทาง MS Group สามารถผลิตสินค้าเครื่องสำอางได้หลากหลาย และครบทุกกลุ่มสินค้า ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ ตั้งแต่ขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก ได้เสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ให้คำปรึกษาให้เรื่องการพัฒนาสินค้า ไปจนถึงการตลาด อย่างสม่ำเสมอ
"เราเชื่อว่าการที่สินค้าจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่แค่หน้าที่ของลูกค้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่คือหน้าที่ของเราในการช่วยคิด แล้วเราก็ต้องมั่นใจว่าสินค้าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละตลาดได้ ดิฉันขอยกตัวอย่าง สินค้าของเราที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ส่งออกไปต่างประเทศ มากกว่า 45 ประเทศทั่วโลก คือ โฟมล้างหน้า ปีที่แล้วผลิต และส่งออกไปเกิน 10 ล้านชิ้น และอีกตัวที่เราภาคภูมิใจมากเช่นกัน คือ เซรั่มที่มีสารสกัดของ Vitamin C ผลิตและส่งออกไปให้กับลูกค้าในหลายประเทศ ผลตอบรับดีมาก มีอัตราการสั่งซื้อซ้ำจากทุกประเทศเลยทีเดียว"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MS Group บริษัทสัญชาติไทยกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวถึง จุดเด่นของบริษัทฯ และกลุ่มเป้าหมาย ของ MS Group ว่า ได้ดูแลแบบครบวงจรแก่คู่ค้า โดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยคิด ให้คำปรึกษา ช่วยแก้ปัญหา ตั้งแต่เริ่มต้นเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสินค้า คิดดีไซน์ฉลาก โลโก้ คิดสูตร และผลิตสินค้าตามความต้องการแบบครบวงจร ภายใต้มาตรฐานการควบคุมการผลิตจากทางการนอกจากนี้ MS Group ยังให้ลูกค้าหรือคู่ค้า สามารถเลือกซื้อสินค้ากับเราเป็น Finish Goods คือสินค้าสำเร็จรูปพร้อมขายได้เลย หรือจะซื้อเฉพาะบรรจุภัณฑ์ก็ได้ หรือจะซื้อเฉพาะเนื้อครีมแล้วนำไปบรรจุเอง สามารถปรับตามความต้องการของเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์นั้นๆ
ทั้งนี้คุณดวงฤทัย กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังและต่อๆไปนี้ บริษัทฯจะขยายบริการแบบครบวงจรนี้ให้เข้าถึงคนไทยมากขึ้น เพราะโดยอดีตที่ผ่านมา มุ่งเน้นไปทางด้านต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งทุกวันนี้ MS Group ขายสินค้าให้กับชาวต่างชาติไปมากกว่า 45 ประเทศแล้ว ดังนั้นความพร้อมทั้งด้านการผลิตและการบริการ สามารถตอบโจทย์การดูแลลูกค้าได้ในทุกๆกลุ่ม ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปลายทาง สำหรับการตลาดครึ่งปีหลัง จะทำตลาดในประเทศไทยควบคู่ไปกับการส่งออก
"ดิฉันคาดว่าการนำเข้าจะชะลอตัวลง เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่จีน ทำให้เขายังคงปิดประเทศในหลายพื้นที่ ส่งผลให้การนำเข้าสินค้าจากจีนทำได้ยากจากปัญหาด้านโลจิสติกส์ที่ยังคงอยู่ ลูกค้าจะหันมาพึ่งพาผู้ผลิตในประเทศมากขึ้น เศรษฐกิจในประเทศไทยจะดีขึ้น เป็นโอกาสที่แบรนด์ใหม่ๆจะเข้าสู่ตลาดได้ อย่างไรก็ตามยังต้องระวังปัจจัยในเรื่องต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้วัตถุดิบแพงขึ้น ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าเพิ่ม ไม่สามารถตรึงราคาเก่าเอาไว้ได้ แต่ตลาดส่งออกของไทยถือว่ายังดีอยู่ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ผลิตเครื่องสำอางในจีนที่ถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญ ประสบปัญหาในการส่งออก ทำให้ลูกค้าต่างประเทศมองหาฐานผลิตใหม่ ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศอื่นที่เป็นคู่แข่งของไทยแล้ว ด้านคุณภาพเราสามารถที่จะสู้กับประเทศเวียดนาม สู้กับประเทศตุรกี ประเทศโปแลนด์ได้ เรายังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าต่างประเทศ เพราะว่าสินค้าไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกแล้วก็ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะค่อนข้างชื่นชอบประเทศไทย" คุณดวงฤทัย กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ที่จะทำตลาดในประเทศไทย จะเน้นการเข้าไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและเล็กให้มากขึ้น เพราะ MS Group มีความพร้อมในเรื่องของการผลิต ทั้งในด้าน Packaging และสินค้าเครื่องสำอางสำเร็จรูป ที่เน้นคุณภาพเป็นหลัก พัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล มีความสวยงาม ในราคาที่สมเหตุสมผล และนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มี ช่วยส่งเสริมให้แบรนด์ไทยประสบความสำเร็จทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศได้มากขึ้น