วันนี้ (23 ก.ค. 66) เวลา 13.00 น. พระธรรมวชิราธิบดี เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 58 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2566 โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ผู้บริหารบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด และบริษัท ซีพีแรม จำกัด ครอบครัวและญาติของผู้บรรพชาอุปสมบท และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วมพิธี ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
นายจุติ กล่าวว่า พิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ภายใต้โครงการ “พระธรรมจาริก” เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พม.) (กรมประชาสงเคราะห์เดิม) กับมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม โดยมีการน้อมนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่มุ่งพัฒนาทางคุณภาพชีวิตทุกมิติให้กับราษฎรบนพื้นที่สูง รวมถึงเป็นการสร้างจิตสำนึกในความเป็นไทย และจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการพระธรรมจาริก ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในการถวายปัจจัย เครื่องอุปโภคบริโภค และสนับสนุน การพัฒนางานพระธรรมจาริกมาโดยตลอด
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 6 ทศวรรษ มีราษฎรบนพื้นที่สูงเข้าร่วมบรรพชาอุปสมบทจำนวนทั้งสิ้น 12,504 รูป ซึ่งเกิดขึ้นจากความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาในการสืบสานพระพุทธศาสนาถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำหรับปี 2566 นับเป็นปีที่ 58 มีราษฎรบนพื้นที่สูงและพื้นที่ราบถิ่นกันดารที่เลื่อมใส ขอบรรพชาอุปสมบทจำนวนทั้งสิ้น 205 รูป แบ่งเป็น บรรพชา (สามเณร) 75 รูป และ อุปสมบท (พระนวกะ) 130 รูป ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย 10 ชาติพันธุ์ ของศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง 10 จังหวัด ทั้งนี้ หลังจากที่บรรพชาอุปสมบทแล้ว จะเข้ารับการศึกษาพระธรรมวินัย และวิชาการต่าง ๆ ทั้งสายปริยัติธรรมและสายสามัญ เมื่อจบการศึกษาแล้ว หากอยู่ในสมณเพศจะออกปฏิบัติงานเผยแพร่พระพุทธศาสนาร่วมกับพระธรรมจาริก ส่วนผู้ที่ลาสิกขาบทจะได้นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ศึกษาต่อ ประกอบอาชีพ และทำประโยชน์ให้แก่ครอบครัวและชุมชนต่อไป
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวง พม. ขอเป็นสื่อกลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ราษฎรบนพื้นที่สูงของคณะพระธรรมจาริก แม้ความห่างไกลของพื้นที่สูงจะเป็นอุปสรรค แต่ศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนาของคณะพระธรรมจาริก จะนำพาชีวิตราษฎรบนพื้นที่สูงให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พี่น้องราษฎรบนพื้นที่สูงที่เข้ารับการบรรพชาอุปสมบทครั้งนี้ จะได้รับการศึกษาเรียนรู้พระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา การหล่อหลอมขัดเกลาจิตใจ สามารถดำรงตนอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม และสานต่อพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว ตลอดจนนำพาตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติให้มีความร่มเย็นเป็นสุขสืบไป
#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม